กทม. 28 ต.ค.-ปลัด มท. เผยฝ่ายปกครองจะมีการจัดตั้งชุดเฉพาะกิจฝ่ายปกครองเพิ่มเติมควบคู่การจัดตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และการข่าว พร้อมหมั่นตรวจตราสถานบันเทิง แหล่งมั่วสุมอบายมุข สิ่งผิดกฎหมายทุกชนิด สร้างความผาสุกให้สังคม กำหนดวันดีเดย์ Kick off ทั่วประเทศ 1 พ.ย.นี้
วันนี้ (28 ต.ค. 66) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตนได้แจ้งในการประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดผ่านระบบ Video Conference เมื่อวานนี้ว่า กรมการปกครองจะจัดตั้งชุดเฉพาะกิจฝ่ายปกครองเพิ่มมากขึ้นเพื่อดำเนินการจัดระเบียบสังคมทั้งในเรื่องยาเสพติด ค้ามนุษย์ และสถานบริการผิดกฎหมาย ให้เข้มข้นมากขึ้น สอดคล้องกับการขับเคลื่อนนโยบายการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยภายในประเทศตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย ดังแนวทางการทำงานที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มอบไว้ว่า “ทันโลก ทันสมัย ทันท่วงที” ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด (ผอ.รมน.จังหวัด) ที่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งเรื่องการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล ผู้ลักลอบครอบครองอาวุธปืน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด การลักลอบให้บริการสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายกับสถานบริการ และสิ่งผิดกฎหมายทุกประเภท โดยที่ผ่านมากรมการปกครองภายใต้การนำของนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง ได้นำชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ลงพื้นที่ตรวจตราสถานบริการและสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการและพบว่ามีผู้ลักลอบกระทำผิดกฎหมายเป็นจำนวนมาก ดังนั้น จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้กำชับนายอำเภอ ออกสำรวจตรวจตราสถานบริการและสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายกับสถานบริการอย่างต่อเนื่อง และดำเนินการเข้มงวดกวดขันให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดการกระทำความผิดขึ้นในพื้นที่ของท่าน อันเป็นการช่วยกันสร้างความสงบเรียบร้อยให้กับสังคม เพื่อรักษาความมั่นคง สร้างความสุขให้กับประชาชนและประเทศชาติต่อไป
“นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป “จะไม่มีชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองเพียงแค่ชุดเดียว” โดยกรมการปกครองจะมีการจัดตั้ง “ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจในระดับพื้นที่จังหวัด/อำเภอ” เพิ่มเติม จังหวัด/อำเภอละ 1 ชุด ให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2566 โดยพร้อมปฏิบัติการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อดำเนินการบังคับใช้กฎหมายตามอำนาจหน้าที่ มุ่งเน้น 1) ตรวจตราสถานบริการ และสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการที่ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ให้มีการกระทำผิดกฎหมาย ทั้งการอนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่าเกณฑ์ตมมกฎหมายเข้าใช้บริการ การมีการจำหน่ายและเสพสารเสพติด การค้าประเวณี การครอบครองและพกพาอาวุธปืน การพนัน และความผิดตามกฎหมายอื่น ๆ 2) ดำเนินการกับผู้ลักลอบเปิดสถานบันเทิงที่มีลักษณะเป็นสถานบริการหรือสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีการกระทำผิดกฎหมายฉบับต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก และ 3) ดำเนินการติดตามและเฝ้าระวังผู้มีอิทธิพล ทั้งนี้ ตนในฐานะปลัดกระทรวงมหาดไทยได้มีการสั่งการให้กรมการปกครองได้เร่งรัดดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายสำคัญเร่งด่วนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยบูรณาการร่วมกับทุกจังหวัด ทุกอำเภอ เร่งจัดตั้งกลไกในการดำเนินการพร้อมระบบการติดตามและรายงานผล” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเน้นย้ำ
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ ให้มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เพื่อบูรณาการการทำงาน แจ้งข่าวสาร และรายงานผลการปฏิบัติ ภายในเวลา 06.00 น. และ 18.00 น. ของทุกวัน โดยหากมีเหตุด่วนหรือเหตุสำคัญต้องรายงานมายังส่วนกลางโดยทันที และมีการติดตามประเมินผลการปฏิบัติ วิเคราะห์สถานการณ์ แนวโน้ม และเสนอแนะมาตรการรวมทั้งปรับปรุงมาตรการในทุกไตรมาส ซึ่งจะมีการเปิดศูนย์ปฏิบัติการและเริ่มปฏิบัติการ (Kick off) พร้อมกันทุกจังหวัด ทุกอำเภอ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 พร้อมกันทั่วประเทศ
“เพื่อเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อย สร้างความผาสุกให้กับสังคมอย่างต่อเนื่อง จึงให้ฝ่ายปกครองมีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดสิ่งผิดกฎหมาย ตรวจตรา ปฏิบัติการข่าวทั้งเรื่องยาเสพติด การค้ามนุษย์ การครอบครองและพกพาอาวุธปืน การพนัน การดำเนินการติดตามและเฝ้าระวังผู้มีอิทธิพล แรงงานผิดกฎหมาย สถานบริการ และสถานบันเทิง และดำเนินการกับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างเคร่งครัดในทันที พร้อมทั้งจัดทำระบบรายงานผลการปฏิบัติงานเพื่อนำข้อมูลที่จำเป็นมาวิเคราะห์สถานการณ์และรายงานผลกระทบตามนโยบายของรัฐบาลในภาพรวมของประเทศต่อไป” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเพิ่มเติม
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวในช่วงท้ายว่า กระทรวงมหาดไทยมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนภารกิจเพื่อเสริมสร้างความสงบเรียบร้อยให้กับสังคมไทย เพื่อให้เกิดสวัสดิภาพ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด ทุกปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของพี่น้องประชาชนจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก เพื่อสังคมไทยเป็นสังคมที่น่าอยู่ ประชาชนและนักท่องเที่ยวไม่ต้องหวาดระแวงกับภยันอันตราย และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติสุข ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนมีเบาะแสการกระทำความผิดหรือเหตุสร้างความเดือดร้อนรำคาญ ขอให้ได้แจ้งมายังสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย