กรุงเทพฯ 29 ก.ค.-กรมอุตุฯ คาดตั้งแต่ 29 ก.ค.-3 ส.ค. ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่งด้านตะวันออกของภาคเหนือและภาคอีสานตอนบนที่ใกล้หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมทางตอนบนของเวียดนาม พร้อมติดตามพายุโซนร้อนลูกใหม่ “ขนุน” ในมหาสมุทรแปซิฟิก คาดจะทวีกำลังแรงขึ้นอีก
นางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยากล่าว่า ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค. – 3 ส.ค. หลังจากพายุไต้ฝุ่น “ทกซูรี” สลายตัวไปแล้ว ฝนจะเริ่มกลับมาตกกระจายอีกครั้งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและด้านตะวันออก ภาคกลางด้านตะวันตก ภาคตะวันออกด้านรับมรสุมที่จังหวัดจันทบุรีและตราด ภาคใต้ฝั่งอันดามันที่จังหวัดระนองและพังงา ส่วน กทม. และปริมณฑล จะเริ่มมีฝนช่วงบ่าย-ค่ำ ส่วนใหญ่ยังเป็นฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง
ทั้งนี้จะมีฝนตกหนักบางแห่งทางด้านตะวันออกของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ใกล้หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมทางตอนบนของเวียดนาม ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังมีกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง ส่งผลให้คลื่นลมในทะเลทั้ง 2 ฝั่ง มีกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง ขอให้ชาวเรือและชาวประมงเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในระยะ 1-2 วันนี้ หลังจากนั้นระหว่างวันที่ 4-7 ส.ค. ฝนจะน้อยลงเนื่องจากมรสุมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อนลง
นางสาวชมภารีกล่าวว่า ระยะนี้มีพายุโซนร้อนลูกที่ 6 ก่อตัวขึ้น ชื่อ “ขนุน (KHANUN)” โดยศูนย์กลางอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า จะทวีกำลังแรงขึ้นได้อีก พายุเคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือค่อนไปทางเหนือ ยังไม่ได้มีทิศทางเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย จึงไม่มีผลกระทบกับประเทศไทย แต่กรมอุตุนิยมวิทยาจะติดตามอย่างใกล้ชิด
พร้อมกันนี้ย้ำว่า ในเดือนส.ค. มีโอกาสสูงที่พายุหมุนเขตร้อนที่ก่อตัวขึ้นบริเวณทะเลจีนใต้ จะเคลื่อนตัวเข้าใกล้หรือเคลื่อนผ่านประเทศไทยบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ อีกทั้งมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยจะมีกำลังแรงเป็นระยะๆ และต่อเนื่อง ประกอบกับในบางช่วงจะมีร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงคาดหมายลักษณะอากาศว่า ประเทศไทยจะมีฝนตกชุกหนาแน่นเพิ่มขึ้นอีก โดยส่วนใหญ่จะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60–80 ของพื้นที่ กับจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และหนักมากในบางแห่ง ซึ่งก่อให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งน้ำล้นตลิ่งในบางแห่ง สำหรับคลื่นลมทั้งบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง โดยจะมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร จึงขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาไว้ด้วย.-สำนักข่าวไทย