ห่วงคว่ำญัตติจะเป็นบรรทัดฐานการเมือง

รัฐสภา 18 ก.ค.-“พิธา” ห่วงคว่ำญัตติสกัดนั่งนายกฯ จะกระทบทัังระบบ ยันพร้อมถอยหากเสียงโหวตรอบ 2 เพิ่มไม่ถึง 10% เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อ ย้ำ8 พรรคต้องจับมือแน่น ลงเรือลำเดียวกัน  ไม่ตอบชัดปมถอยแก้มาตรา 112 บอกคำอภิปราย ส.ว. ส่อยืดหยุ่น คุยกันได้


นายพิธา  ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีวิป 3 ฝ่ายยังไม่ได้ข้อยุติว่าในวันพรุ่งนี้ (19ก.ค.)จะสามารถเสนอชื่อนายพิธา  รอบที่ 2 ให้ที่ประชุมรัฐสภาลงมติเห็นชอบเป็นนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ว่า เรื่องนี้ในที่ประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลได้มีการอธิบายข้อกฎหมายว่าไม่เกี่ยวข้องกันก ารเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีไม่ใช่ญัตติ อย่างไรก็ตามยอมรับว่ากังวลใจหากจะมีการคว่ำญัตติ เพื่อสกัดกั้นตนเพียงคนเดียว เพราะจะส่งผลต่อระบบทั้งหมด  เนื่องจากจะมัดตน มัดพรรคก้าวไกล และจะมัดพรรคการเมืองอื่น ทั้งพรรคที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ซึ่งจะทำให้การเสนอชื่อคนดำรงตำแหน่งก็จะกลายเป็นญัตติไปหมดแล้วจะเป็นการผูกที่แก้ไขยาก ซึ่งจะเป็นปัญหาต่อไปในอนาคตของผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งทางการเมือง หากลงมติในครั้งแรกไม่ผ่าน เช่นอาจจะติดว่าเคยไปถ่ายรูปกับใครมา ถ้าถอยกลับมาก็อาจจะโหวตใหม่ไม่ได้ ดังนั้นตรงนี้ต้องดึงสติกันให้ชัด และต้องเห็นความแตกต่างระหว่างการเสนอชื่อผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองกับญัตติ ซึ่งในรัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดว่าหากเสนอญัตติต้องเข้าชื่อกัน แต่กรณีนี้ไม่ใช่การยื่นญัตติ จึงคิดว่าหากไปตีความเพื่อสกัดตนแล้วส่งผลกระทบทั้งระบบเป็นเรื่องที่น่ากลัว และไม่ควรทำ

ส่วนความเป็นไปได้ในการขอเพิ่มเสียงโดยการดึงพรรคที่ 9 และที่ 10 มาร่วมนั้น นายพิธากล่าวว่ายังไม่ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ เป็นเพียงเรื่องที่เลขาธิการพรรคไปสอบถามว่าจะมีการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยหรือไม่ ขณะที่พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์  เตมียเวส  หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ก็ดำเนินการตามที่ตนเองเห็นว่าเหมาะสม ก็เข้าใจกันทุกฝ่าย ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าอะไร ส่วนหากมีพรรคไหนพร้อมโหวตให้จะให้ร่วมงานด้วยหรือไม่ก็ต้องเป็นเรื่องที่หารือกันอีกครั้ง อย่างไรก็ตามเรื่องการปรับแก้ MOU เพื่อเปิดให้พรรคมาร่วมนั้น 8 พรรคยังคงเหมือนเดิมและไม่ได้รับการติดต่อจากพรรคไหนว่าจะมาร่วม แต่ถ้าได้รับการตอบรับ ก็สามารถปรับยุทธศาสตร์ได้ไปเรื่อยๆเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ หากไม่ได้ผลลัพธ์อะไรก็แสดงว่ายุทธศาสตร์ที่ผ่านมาไม่สามารถต้านแรงสกัดได้ ก็ต้องถอยเพื่อให้บ้านเมืองไปต่อได้  


ส่วนเสียงที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญอยู่ที่เท่าไหร่นั้น นายพิธากล่าวว่าเป็นไปตามที่ได้สื่อสารไว้ว่าหากเพิ่มขึ้นอีก 10 กว่าเปอร์เซ็นต์คือ 340-350 กว่า ตนเชื่อว่าเป็นทิศทางที่ดีที่เข้าใกล้ถึงเป้าหมาย รวมถึงเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ซึ่งยืนยันว่าไม่ใช่การตัดสินใจด้วยอารมณ์หรือถ่วงเวลาอะไรทั้งสิ้นแต่เป็นการตัดสินใจโดยสถิติและการโหวตมาตรานี้ เมื่อปี 2563 จนถึงปี 2565

ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยระบุว่าหากพักก้าวไกลจะเปิดทางให้จะต้องออกแถลงการณ์ในนามพรรคนั้นนายพิธากล่าวว่าเมื่อถึงเวลาคงเป็นอย่างนั้น ส่วนการเตรียมแผนสำรองในการเสนอชื่อบุคคลอื่นแทนตนนั้นยังไม่เห็นสถานการณ์นั้น

เมื่อถามว่ายืนยันหรือไม่ว่าหากเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลพรรคก้าวไกลจะอยู่ในสมการเดียวกัน นายพิธากล่าวว่า นั่นเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการ เพราะเป็นรัฐบาลที่ร่วมกันจัดตั้ง 8 พรรคมี MOU กันมาอย่างชัดเจน และทำงานมาถึงขั้นนี้แล้ว ตนก็คิดว่าหากตนในฐานะพรรคอันดับ 1 ไปต่อไม่ได้ ก็ส่งไม้ให้พรรคอันดับ 2 ก็คิดว่าคงจะอยู่ในเรือลำเดียวกัน ร่วมกันมาและตั้งรัฐบาลแห่งความหวังของประชาชน


ส่วนกรณีที่สว. ระบุว่าหากพรรคก้าวไกลไม่แก้ 112 ก็พร้อมที่จะโหวตให้นั้น จากการฟังการอภิปรายในวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นโอกาสทำให้เห็นภาพได้มากขึ้น โดยบางคนคิดว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับความยืดหยุ่น ว่าตกลงใครเป็นคนฟ้องเพื่อให้ไปสู่เป้าหมายเดียวกัน เพื่อไม่ให้ใครเอามาตรานี้มารังแกคนเห็นต่างทางการเมืองได้ ไม่ใช่ใครก็ได้ที่ฟ้องได้หมดรวมถึงเรื่องของสัดส่วนโทษ  จึงเห็นว่าการอภิปรายในวันนั้นทำให้แนวคิดของ ส.ว.และตนเข้าใกล้กันมากขึ้น  โดยเป็นเรื่องรายละเอียดแต่ละข้อที่ ส.ว.กังวลใจ จึงรู้สึกว่ามีความคืบหน้า ยืดหยุ่นพูดคุยกันได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจในสังคมไทย

เมื่อถามย้ำว่าพร้อมที่จะปรับเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 หรือไม่นายพิธากล่าวว่าขอฟังชัดๆ แล้วขอคุยกันอีกทีนึง นายพิธายังกล่าวถึงกรณีที่แกนนำพรรคภูมิใจไทย บอกให้ลดเพดานแล้วพร้อมจะโหวตให้นั้นว่าตนไม่แน่ใจว่าข้อเสนอนี้ยังอยู่หรือจบไปแล้ว  เพราะเห็นจากสื่อว่าจบไปแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องที่จะต้องนำมาวิเคราะห์กัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมรอบนอก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วิกฤติ

ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น แต่ในพื้นที่ไข่แดงหรือพื้นที่เศรษฐกิจ น้ำยังไม่สามารถจะเจาะเข้าไปได้ โดยนายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่มั่นใจถ้าฝนตกลงมาไม่มากไปกว่านี้จะสามารถดูแลพื้นที่ในเทศบาลนครหาดใหญ่

ปัตตานีจมบาดาล-ถนนถูกตัดขาด

สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ยังวิกฤติในหลายจังหวัด เพราะฝนยังไม่หยุดตก ทำให้การระบายน้ำแทบไม่สามารถทำได้เลย โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ชาวบ้านเดือดร้อนหนักหลายแสนคน

เร่งรื้อถอนคานถล่ม ถ.พระราม 2 จราจรติดขัดหนัก

เหตุแผ่นยกคานปูนและเครนก่อสร้างถล่มบนถนนพระราม 2 จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงรื้อถอนโครงสร้างที่พังถล่มไม่แล้วเสร็จ ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด ขณะที่การจราจร ถ.พระราม 2 ทั้งขาเข้า-ขาออก ติดขัดหนัก แนะเลี่ยงเส้นทาง

นายกฯ สั่งระดมช่วยน้ำท่วมใต้-เร่งเยียวยา

นายกฯ สั่งระดมช่วยเหลือน้ำท่วมใต้-เร่งมาตรการเยียวยา เผย ครม.เห็นชอบ 39 โครงการฟื้นฟูพื้นที่อุทกภัย เชียงใหม่-เชียงราย 641 ล้านบาท