กรุงเทพฯ 6 ก.ค.- อธิบดีกรมชลประทานสั่งโครงการชลประทานพื้นที่เสี่ยง 34 อำเภอใน 12 จังหวัดเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากตามประกาศ กอนช. ระหว่างวันที่ 8-11 ก.ค. นี้
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า ได้สั่งการให้โครงการชลประทานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้เตรียมพร้อมตามแผนรับสถานการณ์น้ำหลากตามประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ซึ่งแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากใน 34 อำเภอของ 12 จังหวัด เนื่องจากระยะที่ผ่านมาประเทศไทยมีฝนตกเพิ่มขึ้นและยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง
ทั้งนี้ได้ประเมินสถานการณ์น้ำด้วยฝนคาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในช่วงวันที่ 8 – 11 กรกฎาคม 2566 ดังนี้
1.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้แก่
– จังหวัดอุบลราชธานี (อำเภอโขงเจียมและสิรินธร)
-จังหวัดมุกดาหาร (อำเภอเมืองมุกดาหารและหว้านใหญ่)
-จังหวัดนครพนม (อำเภอเมืองนครพนมและธาตุพนม)
2. ภาคตะวันออกได้แก่
– จังหวัดระยอง (อำเภอนิคมพัฒนา เขาชะเมา แกลง และบ้านค่าย)
– จังหวัดจันทบุรี (อำเภอเมืองจันทบุรี ขลุง เขาคิชฌกูฏ ท่าใหม่ มะขาม และแก่งหางแมว)
– จังหวัดตราด (อำเภอบ่อไร่และเมืองตราด)
3. ภาคใต้ได้แก่
– จังหวัดระนอง (อำเภอเมืองระนองและกะเปอร์)
– จังหวัดตรัง (อำเภอหาดสำราญ กันตัง วังวิเศษ ย่านตาขาว เมืองตรัง และห้วยยอด)
– จังหวัดกระบี่ (อำเภอเกาะลันตา)
– จังหวัดพังงา (อำเภอตะกั่วป่า และกะปง)
– จังหวัดสตูล (อำเภอทุ่งหว้า มะนัง ท่าแพ และควนกาหลง)
– จังหวัดพัทลุง (อำเภอป่าบอน)
นายประพิศกล่าวว่า ได้ย้ำให้โครงการชลประทานต่างๆ ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ หรือพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังไม่สามารถระบายได้ทัน โดยให้เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ลอกท่อระบายน้ำ รวมทั้งปรับแผนบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ ตลอดจนพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที.-สำนักข่าวไทย