กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – กรมธุรกิจพลังงาน คุมเข้มรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐซื้อก๊าซฯ หากโกงรูดเพื่อซื้อสินค้าอื่น ร้านค้าถูกตัดสิทธิร่วมโครงการทันที เบื้องต้นตรวจพบกระทำผิด 70 ร้านค้า
หลังจากปี 2565 ต่อเนื่องต้นปี 2566 วงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย 14 ล้านคน เพิ่มวงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม จาก 45 เป็น 100 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน และล่าสุดปรับลดเหลือ 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เมษายน-มิถุนายน 2566 ปรากฏว่า กรมธุรกิจพลังงานได้รับการร้องเรียนว่า ร้านค้าก๊าซฯ หลายแห่งมียอดบัตรสูงผิดปกติ และจากการตรวจสอบพบว่า มีการรูดเงินผิดวัตถุประสงค์ มีการฉ้อโกง เช่น แทนที่จะรูดเงินเพื่อซื้อก๊าซฯ กลับเป็นการรูดเงินเพื่อแลกซื้อสินค้าอื่น เช่นไข่ น้ำมันพืช ข้าวสาร เป็นต้น
ดังนั้น เพื่อควบคุมร้านค้าก๊าซฯ ล่าสุดได้เสนอกฎระเบียบควบคุม และราชกิจจานุเบกษา เรื่อง คุณสมบัติร้านก๊าซหุงต้ม ร่วมเป็นร้านค้าก๊าซ เพื่อรับชำระเงินจากการใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ มีผลบังคับใช้แล้ว เช่น กำหนดให้ร้านค้าใหม่ที่ร่วมโครงการต้องมีใบรับแจ้งการประกอบกิจการควบคุม ตามพระราชบัญญัติควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง, มีหน้าร้าน ทำเล ที่ตั้งร้านค้าแน่นอน, ไม่เคยถูกเพิกถอนสิทธิโดยมีรายชื่อที่ระบบของธนาคารกรุงไทย, ไม่เคยยกเลิกการติดตั้งเครื่อง EDC หรือยกเลิกแอปพลิเคชันถุงเงิน เพื่อรับชำระเงินจากสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ (ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม), ห้ามรับชำระค่าก๊าซหุงต้มด้วยรูปแบบอื่นๆ ที่เป็นการรับชำระล่วงหน้า เช่น การสะสมคูปอง การสะสมแต้ม การรวมสิทธิเพื่อส่งมอบในภายหลัง และห้ามรับแลกสิทธิรูปแบบอื่นๆ ที่ไม่ใช่วัตถุประสงค์ของส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม
กรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด กรมธุรกิจพลังงาน หรือสำนักงานพลังงานจังหวัดที่รับสมัครเป็นร้านค้าก๊าซฯ จะดำเนินการเพิกถอนการเป็นร้านค้าก๊าซฯ ที่่ร่วมโครงการ และแจ้งกรมบัญชีกลางพิจารณาการส่งคืนเครื่อง EDC หรือยกเลิกการใช้แอปพลิเคชันถุงเงิน รวมทั้งจะดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอีกด้วย
นางพัทธ์ธีรา สายประทุมทิพย์ รองอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า เบื้องต้นกรมฯ ได้พบร้านค้าก๊าซฯ กระทำผิดเงื่อนไขประมาณ 70 ร้านค้า จากจำนวนที่เข้าร่วม 2,800 ร้านค้า จากทั้งประเทศมี 10,000-20,000 ร้านค้า จึงคาดหวังว่าจะมีผู้ประกอบการสมัครเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้น ซึ่งกรมฯ ได้จัดทีมส่วนกลางและพลังงานจังหวัดลงพื้นที่ตรวจสอบทุกร้านค้าที่เข้าโครงการ เพื่อป้องกันการทุจริต และใช้เงินรัฐให้มีประสิทธิภาพ. – สำนักข่าวไทย