สมุทรปราการ 13 มิ.ย.-ความคืบหน้าคดีพบศพหญิงสาวอายุไม่เกิน 15 ปี ถูกฆ่าถ่วงน้ำทิ้งคลองสำโรง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เมื่อ 3 วันก่อน ตำรวจยังคงเร่งหาเบาะแสคนร้าย รวมทั้งหาว่าผู้ตายเป็นใครมาจากไหน ล่าสุด มีรายงานว่าตำรวจคุมตัวผู้ต้องสงสัยไปสอบสวนแล้ว
ทีมข่าวสำนักข่าวไทยลงพื้นที่ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรบางเสาธง จ.สมุทรปราการ เพื่อหาหลักฐานเชื่อมโยงเหตุฆาตกรรมหญิงสาวอายุไม่เกิน 15 ปี ถ่วงน้ำทิ้งคลองสำโรง อ.บางเสาธง โดยเฉพาะกางเกงที่ผู้ตายสวมใส่มีสีสันฉูดฉาด และได้ข้อมูลจากพ่อค้ารถเร่ว่าคนไทยไม่นิยมซื้อกางเกงลักษณะนี้ จะขายดีในกลุ่มแรงงานต่างด้าว ตามแคมป์คนงาน ขณะที่ผลการชันสูตรศพอย่างไม่เป็นทางการ พบว่าในกระเพาะอาหารของผู้ตายไม่มีอาหารอยู่ และจากการตรวจลายนิ้วมือก็ไม่พบในฐานข้อมูล แต่อาจจะเป็นไปได้ว่าผู้ตายอายุยังน้อย ยังไม่ได้ทำบัตรประจำตัวประชาชน หรืออาจเป็นลูกหลานของแรงงานต่างด้าว เข้ามาใช้แรงงานอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ขณะที่ผู้ปกครองที่มีลูกสาวหายตัวออกจากบ้าน เข้าพบพนักงานสอบสวนตำรวจภูธรบางเสาธง เพื่อให้ข้อมูล 2 คน แต่จากการตรวจสอบยังไม่ตรงกับศพ ตำรวจจึงเก็บตัวอย่าง DNA เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ ชุดสืบสวนยังได้เบาะแสจากนางสำราญ ใจพุก อายุ 78 ปี เจ้าของห้องเช่า ใกล้กับศาลเจ้าแม่ทับทิม ห่างจากจุดพบเชือกและวัตถุที่ใช้ก่อเหตุฆ่าอำพรางศพ ห่างจากจุดพบศพตามเส้นทางคลองสำโรงประมาณ 500 เมตร
พยานให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้มีครอบครัวหนึ่งมาเช่าห้องพัก โดยมีสามี ภรรยา และลูกสาว 2 คน อายุ 11 และ 3 ปี โดยผู้เป็นสามีเคยเป็นพนักงานขับรถบัส แต่ลาออกไปทำงานโรงงานกับภรรยา และมักจะทำโทษลูกสาวคนโตเป็นประจำ ทั้งการตีด้วยไม้ หรือขังไว้ในห้องจนกว่าสองสามีภรรยาจะกลับจากทำงาน จนบางวันไม่ได้กินข้าว ล่าสุดวันเสาร์ที่ผ่านมา ไม่เห็นลูกสาวคนโตของครอบครัวนี้ จึงถามว่าลูกสาวไปไหน ได้รับคำตอบว่าพาไปฝากไว้กับน้องสาว ส่วนเสื้อที่ผู้ตายสวมใหญ่ เพื่อนบ้านบอกกับตนว่า เป็นเสื้อที่เคยนำไปให้ลูกสาวคนโตของครอบครัวนี้ ซึ่งสอดคล้องกับการพบศพหญิงสาววันอาทิตย์ และคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน หรือเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตำรวจจึงเข้าตรวจสอบห้องพักพบว่า ทั้งหมดขนสิ่งของออกไปจากห้องพักแล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันพบศพ
จากข้อมูลพบว่า สองสามีภรรยาย้ายไปอยู่การเคหะบางพลีเมืองใหม่ ห่างจากห้องเช่าเก่าประมาณ 1 กิโลเมตร ชุดสืบสวนจึงแกะรอยจนทราบว่าทั้งคู่ย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว และไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์ได้ เนื่องจากปิดโทรศัพท์ ล่าสุด ตำรวจกองปราบปรามและชุดสืบสวนท้องที่เชิญตัวสองสามีภรรยาไปสอบสวนแล้ว แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด.-สำนักข่าวไทย