นนทบุรี 5 มิ.ย.-หนุ่มลาวเข้าร้องเรียน “ทนายรัชพล” หลังกลายเป็นแพะต้องติดคุกฟรีเกือบ 3 ปี คดียาเสพติด ซ้ำรถยนต์ที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงยังถูกขายทอดตลาดเหลือแค่ 2 หมื่น ทั้งที่ซื้อมา 350,000 บาท วันพรุ่งนี้ “ทนายรัชพล” จะพาผู้เสียหายไปร้องเรียนที่กระทรวงยุติธรรม
ที่สำนักงานทนายรัชพล ศิริสาคร อ.เมือง จ.นนทบุรี นายไหม อายุ 55 ปี เดินทางมาจาก สปป ลาว เพื่อร้องขอความเป็นธรรมกับทนายรัชพล กรณีเคยถูกจับยาเสพติด พร้อมยึดรถยนต์เป็นของกลาง ระหว่างพิจารณาคดีต้องอยู่ในคุก ไม่ได้ประกันตัว ต่อมาศาลชั้นต้นยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง และให้คืนรถยนต์ คดีถึงที่สุด แต่เมื่อออกมาจากคุกจึงมาถามหารถยนต์คันดังกล่าวที่สำนักงาน ป.ป.ส. กลับได้รับคำตอบว่ารถยนต์ขายทอดตลาดไปแล้ว ได้เงินมา 2 หมื่นบาท นายไหมรู้สึกว่าตนไม่ได้ทำผิด ทำไมต้องสูญเสียทรัพย์สินและไม่มีใครรับผิดชอบ จึงมาร้องเรียนกับทนายรัชพล
นายไหม กล่าวว่า ตนมีอาชีพเป็นไกด์พานักท่องเที่ยวข้ามไปยังฝั่งลาว เมื่อปี 59 ถูก ป.ป.ส. จับกุมที่บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคาย พร้อมยึดรถยนต์ที่ซื้อมาในราคา 350,000 บาท และผ่อนหมดไปแล้ว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมกล่าวหาว่า มีเฮโรอีนไว้ในครอบครอง 14 กิโลกรัม มีหลักฐานเป็นของกลางอยู่ในกล่องขนาดใหญ่ ซึ่งส่งมาที่บ้านของตน ทั้ง ๆ ที่ตนไม่รู้เรื่อง ทำให้ถูกตำรวจมาดักซุ่มจับกุมขณะนำนักท่องเที่ยวข้ามฝั่งไปเที่ยวยัง สปป ลาว หลังถูกจับกุมตัวถูกนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำกลางคลองเปรม เป็นเวลาเกือบ 3 ปี จนคดีสิ้นสุด ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ยกฟ้อง และสั่งให้คืนรถยนต์ของกลาง แต่เมื่อตนเดินทางไปติดต่อขอรับรถยนต์ จาก ป.ป.ส. กลับได้รับการชี้แจงว่ารถยนต์ได้ทำการขายทอดตลาดไปแล้ว ในราคา 2 หมื่นบาทเท่านั้น ตนรู้สึกรับไม่ได้ จึงไม่ขอรับเงินดังกล่าว เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรม และมาร้องเรียนกับทนายรัชพลเพื่อให้ช่วยเหลือติดตามในคดี
ด้านทนายรัชพล กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.) เวลา 13.00 น. จะพาผู้เสียหายไปร้องเรียนที่กระทรวงยุติธรรม เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เสียชื่อประเทศไทย รวมทั้งผู้เสียหายไม่ได้รับการเยียวยาเท่าที่ควรจะเป็น เพราะทั้งหมดเกิดจากการกระทำของตำรวจชุดจับกุมทั้งสิ้น การที่จะคืนเงินจำนวน 2 หมื่นบาท ให้ผู้เสียหายที่นำรถไปขายนั้น ตนมองว่าเป็นเพียงแค่เศษเงินที่เขาเยียวยามา ซึ่งไม่ถูกต้องและไม่มีความเป็นธรรมกับผู้เสียหายเลย.-สำนักข่าวไทย