สมาคมสันนิบาตแห่งประเทศไทย 1 มิ.ย.- “ชัยธวัช” คาดได้ข้อสรุปตำแหน่งประธานสภาฯ กลางเดือน มิ.ย.นี้ หลัง กกต.รับรอง ส.ส. ชี้รัฐบาลแห่งชาติไม่ใช่ทางเลือกการเมืองขณะนี้
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า ยังไม่ได้ข้อยุติ แต่พรรคก้าวไกลตั้งเป้าไว้ว่า ภายในกลางเดือนมิถุนายนนี้จะได้ข้อยุติ เนื่องจากเป็นไปได้ที่ กกต.จะรับรองผลการเลือกตั้งได้เร็ว พร้อมระบุว่า กระแสข่าวว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะนั่งตำแหน่งประธานสภาฯ นั้น ยังไม่ใช่ข้อเท็จจริง ทั้งนี้ พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ต่างมีเหตุผลของแต่ละพรรคที่จะเสนอคนของตัวเองเพื่อดำรงตำแหน่งประธานสภาฯ เชื่อว่าการพูดคุยกันในรายละเอียดในการทำงานร่วมกันน่าจะได้ข้อยุติภายใน 2 สัปดาห์นี้
เลขาธิการพรรคก้าวไกล ยังกล่าวถึงการพูดคุยกับสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ประกอบกับมีข้อเสนอเรื่องการตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ว่า การพูดคุยกับ ส.ว. เป็นไปในทิศทางที่ดี และเมื่อได้พูดคุยกันก็เป็นการลดกำแพงลง รวมถึงยังได้ตอบข้อซักถามหลายเรื่องที่ ส.ว. มีความกังวล ซึ่งเป็นโอกาสดีที่พรรคก้าวไกลมีโอกาสชี้แจง
เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงข้อเสนอจาก ส.ว.ท่านหนึ่ง เรื่องการตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ว่า ถือเป็นสิทธิของ ส.ว. แต่พรรคก้าวไกลมองว่าไม่ใช่ทางออกที่ดี เพราะรัฐบาลที่ดีไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลพรรคไหนที่เป็นแกนนำ ควรจะมีฝ่ายค้านไว้คอยตรวจสอบถ่วงดุล เพราะหากรัฐบาลที่ไม่มีฝ่ายค้าน ก็สุ่มเสี่ยงกับการใช้อำนาจโดยมิชอบ และเชื่อว่าข้อเสนอของ ส.ว. ไม่น่าจะหมายถึงการประเมินว่าไม่สามารถที่จะโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ พร้อมย้ำว่า การเจรจากับ ส.ว. ยังเป็นไปในทิศทางที่ดี ขณะที่รัฐบาลแห่งชาติไม่น่าจะเป็นทางเลือกในทางการเมืองหลังจากนี้ และเท่าที่ได้ยินก็มี ส.ว. เพียงคนเดียวเท่านั้น
นายชัยธวัช ยังกล่าวถึงความเห็นของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ว่า หากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เกิดอุบัติเหตุทางการเมือง อาจทำให้ต้องมีการเลือกตั้งซ่อมทั่วประเทศ ว่า ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะไปไกลขนาดนั้น และจนถึงขณะนี้ยังมีความมั่นใจว่าจะสามารถต่อสู้คดีได้
ส่วนการฟอร์ม ครม.พิธา 1 นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า การตั้งคณะทำงานเปลี่ยนผ่าน จะนำไปสู่กระบวนการการแบ่งงาน จนนำไปสู่การจัดสรรบทบาทของแต่ละพรรคว่าจะบริหารกระทรวงไหนอย่างไรบ้าง คาดว่าในช่วงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี น่าจะมีความชัดเจนเรื่อง ครม. แต่ส่วนตัวคาดว่าแต่ละพรรคจะมีความชัดเจนเรื่องตัวบุคคล หลังการโหวตเลือกนายกฯ.-สำนักข่าวไทย