ทำเนียบรัฐบาล 1 มิ.ย-รองโฆษกรัฐบาล เผย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป กรมการขนส่งทางบกยกระดับความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลประชาชนที่ต้องการจองทะเบียนรถออนไลน์ ต้องยืนยันตัวตนผ่านแอปฯ ThaID
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตแทบทุกด้าน รัฐบาลมุ่งส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐ ทั้งส่วนกลางและภูมิภาคใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการบริหารจัดการภาครัฐ เพื่อก้าวไปสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานภาครัฐได้ปรับเปลี่ยนให้บริการประชาชนผ่านระบบเทคโนโลยี ลดขั้นตอนการให้บริการ เพื่มความสะดวกรวดเร็ว สร้างความพึงพอใจให้กับประชาชนที่มาใช้บริการเป็นอย่างมาก
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เป็นอีกหน่วยงานที่ประชาชนใช้บริการเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการจองหมายเลขทะเบียนรถยนต์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ได้รับความนิยมจากประชาชนเพราะสะดวก รวดเร็ว เพื่อความปลอดภัยทางด้านข้อมูลส่วนบุคคลมากขึ้น เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2566กรมการขนส่งทางบกได้ยกระดับระบบการจองหมายเลขทะเบียนรถยนต์ ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต โดยเพิ่มขั้นตอน การยืนยันตัวตน ก่อนการจองหมายเลขที่เว็บไซต์ https://reserve.dlt.go.th/reserve/
“เพื่อยืนยันตัวบุคคลตามมาตรฐานของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือ PDPA (Personal Data Protection Act) และป้องกันการแอบอ้างชื่อบุคคลอื่นมาจองทะเบียนรถยนต์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายกับข้อมูลส่วนบุคคลหรือสูญเสียทรัพย์ได้ สำหรับการยืนยันตัวตน เจ้าของรถจะต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ThaID ผ่านระบบ IOS หรือ Android เพื่อลงทะเบียนระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางระบบดิจิทัล DOPA – Digital ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย สามารถดำเนินการลงทะเบียนด้วยตนเอง โดยการถ่ายภาพบัตรประจำตัวประชาชนและภาพใบหน้าผ่านแอปพลิเคชัน ThaID ในโทรศัพท์มือถือของตนเอง” น.ส.รัชดา กล่าว
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล DOPA-Digital ID เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการของประชาชนในการติดต่อราชการ สามารถยืนยันตัวตนทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ได้อย่างสะดวก รวดเร็วและปลอดภัย ปัจจุบันนับตั๋งแต่เดือน มกราคม 2566 ระบบสามารถรองรับการใช้งานของประชาชนทั้งประเทศ 60 ล้านคน เพื่อเป็นดิจิทัลไอดีของคนไทยอย่างแท้จริง การพิสูจน์และยืนยันตัวนทางดิจิทัลนั้น เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่จะเชื่อมต่อการยืนยันตัวตนจากทุกภาคส่วนเข้ามาไว้ด้วยกัน แทนระบบเดิม เป็นการสร้างมิติใหม่ของการทำธุรกรรมภาครัฐ และภาคเอกชนที่มีความสะดวก รวดเร็ว ผ่านช่องทางดิจิทัล และมีความปลอดภัยมากขึ้น ทั้งยังลดความเสี่ยงในการใช้เอกสารปลอมในกระบวนการยืนยันตัวตนของระบบเดิมได้อีกด้วย.-สำนักข่าวไทย