สำนักงาน กกต. 30 พ.ค. – กกต. เผยแพร่สถิติผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง “ลำพูน” ใช้สิทธิสูงสุดอันดับ 1 เช่นเดียวกับปี 2562 กทม.ไม่ติด 1 ใน 10 ใช้สิทธิสูงสุด
วันนี้ (30 พ.ค.66) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เผยแพร่สถิติข้อมูลการใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 10 อันดับแรก ประกอบด้วย อันดับหนึ่ง จ.ลำพูน ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 333,392 คน ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 287,556 คน ร้อยละ 86.25 อันดับสอง จ.เพชรบุรี ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 388,760 คน ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 328,578 คน ร้อยละ 84.52 อันดับสาม จ.พัทลุง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 417,460 คน ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 352,577 คน ร้อยละ 84.46 อันดับสี่ จ.นครปฐม ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 739,715 คน ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 617,774 คน ร้อยละ 83.52 อันดับห้า จ.ฉะเชิงเทรา ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 575,796 คน ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 477,004 คน ร้อยละ 82.84 และ จ.ราชบุรี ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 682,471 คน ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 565,364 คน ร้อยละ 82.84
อันดับหก จ.นครนายก ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 209,959 คน ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 173,608 คน ร้อยละ 82.69 อันดับเจ็ด จ.สระบุรี ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 509,408 คน ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 420,663 คน ร้อยละ 82.58 อันดับแปด จ.กระบี่ ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 357,264 คน ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 294,837 คน ร้อยละ 82.53 อันดับเก้า จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 663,820 คน ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 546,348 คน ร้อยละ 82.30 อันดับสิบ จ.สงขลา ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 1,096,442 คน ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 899,221 คน ร้อยละ 82.01
ขณะที่จังหวัดใหญ่ๆ กรุงเทพมหานคร ผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 74.26 จ.เชียงใหม่ ร้อยละ 81.98 จ.นครราชสีมา ร้อยละ 76.29 และ จ.ภูเก็ต ร้อยละ 75.05
ทั้งนี้ จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.สูงสุด เมื่อเปรียบเทียบกับการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 จ.ลำพูน ยังสามารถยึดอันดับหนึ่งไว้ได้ แต่คนมาใช้สิทธิน้อยกว่าการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว โดยการเลือกตั้งปี 2566 มีผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 86.25 แต่การเลือกตั้งปี 2562 มีผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 87.34
สำหรับผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง แบบแบ่งเขตฯ 39,514,973 คน คิดเป็นร้อยละ 75.71 บัตรดี แบบแบ่งเขตฯ 37,190,071 ใบ ร้อยละ 94.12 บัตรเสีย แบบแบ่งเขตฯ 1,457,899 ใบ ร้อยละ 3.69 และบัตรไม่เลือกผู้ใด แบบแบ่งเขตฯ 866,885 ใบ ร้อยละ 2.19. – สำนักข่าวไทย
