พรรครวมไทยสร้างชาติ 24 พ.ค.- “พีระพันธุ์-เอกนัฏ” ยันเดินหน้า รทสช.ในรูปแบบใหม่ทันยุคสมัย หนุนคนรุ่นใหม่ขับเคลื่อนการพัฒนาพรรค ย้ำไม่ใช่การ “รีแบรนดิ้ง” เพราะดีอยู่แล้ว
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อมด้วย นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค และผู้บริหารพรรค ได้แก่ นายเกรียงยศ สุดลาภา นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล (ชัยรุ่งเรือง) ร่วมกันประชุมกับตัวแทนผู้สมัคร ส.ส.กทม. และผู้สมัคร ส.ส.รุ่นใหม่ของพรรค เพื่อสรุปผลการทำงานจากการเลือกตั้งล่าสุดที่ผ่านมา
นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตนในฐานะหัวหน้าพรรค ขอขอบคุณผู้สมัครทุกคนที่ได้ต่อสู้ร่วมกันในการเลือกตั้งครั้งนี้ แม้ว่าพรรคจะไม่ได้ผู้แทนในพื้นที่กรุงเทพฯ แต่คะแนนเสียงที่ได้รับในหลายพื้นที่ อยู่ในลำดับ 2 หรือ ลำดับ 3 ถือว่าเป็นความสำเร็จของพรรคใหม่ที่เพิ่งจะเริ่มต้นการทำงานเชิงการเมือง
“ผมขอให้กำลังใจกับผู้สมัคร ส.ส.กทม. ทั้งผู้ที่เคยเป็น ส.ส.มาก่อน และผู้สมัครหน้าใหม่ที่มีความตั้งใจและมีอุดมการณ์เดียวกับพรรค หลังจากนี้พรรครวมไทยสร้างชาติ ยังคงเดินหน้าทำงานการเมืองต่อ และยินดีต้อนรับทุกคนที่ยังมุ่งมั่นจะเดินบนเส้นทางสายการเมืองต่อ” นายพีระพันธุ์ กล่าว
นายพีระพันธุ์ กล่าวด้วยว่า ตนในฐานะที่อยู่ในการทำงานด้านการเมือง โดยเฉพาะสนามของกรุงเทพฯ มา 30 ปี ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมาหลายรูปแบบ ในการเลือกตั้งมีทั้งขึ้นและลง ถือเป็นเรื่องปกติที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในแบบต่างๆ จึงอยากให้ทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่จะเข้าสู่สนามการเมือง มองเรื่องของความไม่แน่นอนเป็นเรื่องปกติ แม้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะแปลกกว่าทุกครั้งก็ตาม ดังนั้น ขอให้ทุกคนใช้ประสบการณ์ครั้งนี้ เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนา ปรับปรุงวิธีคิด และวิธีหาเสียง เพื่อให้ทันตามยุคสมัยและวิธีการสื่อสารที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะการบริหารจัดการการสื่อสารในประเด็นต่างๆ แรงกระแทกต่างๆ ทางการเมือง เพื่อให้การทำงานทางการเมืองเป็นไปอย่างเหมาะสม และขอให้นึกถึงอุดมการณ์ที่เข้ามาทำงานเพื่อสังคม ประเทศชาติ และประชาชน เป็นที่ตั้งไว้เสมอ
“ถ้าตั้งใจที่จะมีอาชีพนักการเมืองเพื่อดูแลประชาชน ผมขอให้มุ่งมั่น และขออย่าเอาความผิดพลาดในครั้งแรกมายึดติด และทำให้หมดกำลังใจ แต่ขอให้เอากลับมาเป็นประสบการณ์ บทเรียน เพื่อพัฒนาตัวเองต่อไป และในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติเอง เราก็จะยังคงทำงานกันต่อไป และจะขอเชิญทุกท่านมาร่วมประชุมเพื่อระดมสมองทำงานกันต่อ เพราะถือว่าทุกคนเป็นเพื่อนร่วมงานที่จะต้องเดินหน้าทำงานด้วยกัน ไม่ว่าใครจะได้ตำแหน่ง หรือไม่ได้ตำแหน่ง แต่ถ้ามีจิตใจในการทำงานก็สามารถทำงานด้วยกันได้ ทุกอย่างอยู่ที่จิตใจ แนวทางของพรรคคือ จะไม่ทิ้งคนที่ตั้งใจทำงาน ทุกคนมีความสำคัญเท่าเทียมกันหมด ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งหรือไม่ก็ตาม เพราะทุกคนต่างร่วมสู้ศึกอย่างเต็มที่มาด้วยกัน” นายพีระพันธุ์ กล่าว
ด้านนายเอกนัฏ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ยังคงมีผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค มาร่วมประชุมกันอย่างอบอุ่นเหมือนเดิม ไม่เพียงแต่จะมีผู้สมัครในกรุงเทพฯ เท่านั้น ยังมีผู้สมัครรุ่นใหม่จากจังหวัดอื่นๆ มาร่วมพูดคุยในครั้งนี้ด้วย จึงถือได้ว่าทุกคนยังคงมีใจเป็นนักสู้ ตนในฐานะเลขาธิการพรรค ต้องขอขอบคุณทุกๆ คน ที่ร่วมทำงานกันอย่างหนักมาตลอดในสนามการเลือกตั้งครั้งนี้ ถึงแม้ว่าสนามใน กทม. พรรครวมไทยสร้างชาติจะไม่มี ส.ส.เลย แต่หลายพื้นที่ก็พบว่ามีคะแนนมาเป็นอันดับ 2 อันดับ 3 สามารถเอาชนะผู้สมัครพรรคที่เคยคาดว่าจะได้รับการเลือกตั้งไปได้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจทำงานของทุกคน ที่ลงพื้นที่ตามแนวทางที่พรรคได้ตั้งไว้
นายเอกนัฏ ยังกล่าวว่า หลังจากนี้จะได้นำประสบการณ์ต่างๆ มาถอดบทเรียน เพื่อเติมเต็มในการทำงานต่อไปข้างหน้าให้สมบูรณ์ที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พรรคจะเดินไปในทิศทางของการทำงานในรูปแบบใหม่ ก้าวทันยุคสมัยที่เปลี่ยนไป โดยจะมีทั้งคนรุ่นใหญ่ และคนรุ่นใหม่ มาทำงานร่วมกัน และยืนยันว่าไม่ใช่การรีแบรนดิ้ง เพราะแบรนด์ของพรรครวมไทยสร้างชาติดีอยู่แล้ว สิ่งที่จะต้องทำต่อก็คือ การผสมผสานแนวคิดของทุกรุ่น โดยใช้เวลาที่มีต่อจากนี้ในการทำงาน เพราะที่ผ่านมามีเวลาน้อยในการเข้าสู่สนาม แต่หลังจากนี้จะได้เดินหน้าพัฒนาพรรครวมไทยสร้างชาติร่วมกันต่อไป โดยจะทำงานควบคู่กัน ทั้งเรื่องของนโยบาย และเน้นการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพที่เรียกว่า การสื่อสารยุคใหม่ ที่จะใช้ความสามารถของคนรุ่นใหม่ของพรรคจำนวนมาก ที่มีความรู้ความสามารถหลากหลายด้าน และเปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงความสามารถตามที่ถนัดอย่างเต็มที่ เชื่อว่าหากนำมาผสมผสานกับการทำงานของคนทุกรุ่นในพรรค จะยิ่งทำพรรครวมไทยสร้างชาติเข้มแข็งในทุกด้านอย่างแน่นอน
“ผมขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมต่อสู้มาด้วยกัน และหลังจากนี้พรรคก็จะเดินหน้าต่อ เพื่อพัฒนาพรรคให้มีความเข้มแข็งมากขึ้นเรื่อยๆ และเราก็เห็นในศักยภาพของคนรุ่นใหม่ที่เราได้เลือกสรรมา และเชื่อว่าทุกท่านจะสามารถมาร่วมกันในการเดินหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติให้เป็นสถาบันทางการเมืองอย่างที่เราตั้งใจไว้ได้อย่างแน่นอน” นายเอกนัฏ กล่าว.-สำนักข่าวไทย