7 พ.ค.-คดีข่มขืนเด็ก 15 ปี ทนายความพาผู้เสียหายให้ปากคำเพิ่มที่ สน.ร่มเกล้า เผยคู่กรณีมาขอเจรจาไกล่เกลี่ย แต่เนื่องจากเป็นคดีข่มขืนเยาวชน และไม่มีตำรวจร่วมเป็นพยาน จึงไม่ไว้ใจ เชื่อไม่นานออกหมายจับผู้กระทำผิดได้เร็วๆ นี้
ทนายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี พาผู้เสียหายหญิงอายุ 15 ปี พร้อมมารดา เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับตำรวจ สน.ร่มเกล้า หลังถูกชายวัยรุ่นลูกผู้มีอิทธิพล บังคับสูบกัญชาแล้วใส่กุญแจมือ ก่อนใช้ปืนจี้และข่มขืนภายในห้องพักเคหะร่มเกล้า หลังผู้เสียหายไปนั่งเล่นกับน้องสาวผู้ก่อเหตุที่ห้องพัก นอกจากนี้หลังเกิดเหตุ ยังมีคนอ้างตัวเป็นตำรวจสายสืบ โทรศัพท์มาขอเคลียร์คดีนี้ด้วย โดยผู้เสียหายและมารดาได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้วที่ สน.ร่มเกล้า และเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก็เพิ่งเข้าแจ้งความกับตำรวจกองบังคับการปราบปราม
ทนายเผยว่า หลังเข้าแจ้งความกับตำรวจกองบังคับการปราบปราม ฝั่งผู้ปกครองคู่กรณีก็พยายามโทรมาขอเคลียร์ ขอให้ไปเจรจายอมความกันที่สถานีตำรวจ แต่ยังไม่ได้มีการเสนอตัวเงิน ฝั่งมารดาของผู้เสียหายก็วางสายไปก่อนเพราะความหวาดกลัว ซึ่งคดีดังกล่าวไม่สามารถยอมความได้ เพราะเป็นการข่มขืนกระทำชำเราเยาวชนอายุ 15 ปี ดังนั้นหากไม่มีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็คงไม่สามารถไกล่เกลี่ยเพื่อยอมความได้ หลังให้ปากคำเสร็จเชื่อว่าพนักงานสอบสวนจะสามารถออกหมายจับผู้กระทำความผิด 1 คนได้เร็วๆ นี้
ด้านอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ยังบอกอีกว่า นอกจากการโทรมาคุกคามแล้ว ฝั่งคู่กรณียังส่งคนมาเคาะประตูถึงห้อง เพื่อขอให้รับเงินแลกกับการยอมความคดีนี้ และยังบอกอีกว่าถ้าผู้เสียหายและครอบครัวยังกล้าพักอาศัยอยู่ที่เดิมได้ก็อยู่ต่อไป ทำให้มารดาและผู้เสียหายหวาดกลัวเป็นอย่างมาก จนต้องย้ายออกจากที่พักชั่วคราว และไปพักอาศัยอยู่กับเจ้าหน้าที่ที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม หรือศูนย์ OSCC ชั่วคราว
พร้อมย้ำว่าคดีนี้ไม่ได้มีผู้ที่ต้องถูกดำเนินคดีเพียงคนเดียว แต่บุคคลที่อยู่ภายในห้องดังกล่าวขณะเกิดเหตุ และไม่ยอมช่วยเหลือ ก็ต้องมีความผิด และถูกดำเนินคดีด้วย นอกจากนี้ยังมีเพื่อนผู้เสียหายอีกคนที่อยู่ด้วยกัน ไม่ทราบว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศด้วยหรือไม่ แต่หากตกเป็นเหยื่อ ก็ขอให้ผู้ปกครองพาเข้าแจ้งความทันที เพื่อให้บุคคลที่กระทำความผิดได้รับโทษ.-สำนักข่าวไทย