คุมผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพ “น้องแอ๋ม” ฝากขังผัดแรก-ค้านประกัน

ภูมิภาค 1 มิ.ย. – เกาะติดคดีฆ่าหั่นศพ “น้องแอ๋ม” วันนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เรียกประชุมด่วน เพื่อเร่งรัดการจับกุม 3 ผู้ต้องหา ยืนยันกลุ่มผู้ต้องหาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งค้ายาเสพติดข้ามชาติ และยังไม่ถูกฆ่าตัดตอน ขณะที่ตำรวจเมียนมาร์ระบุรู้แหล่งซ่อนตัวของผู้ต้องหาแล้ว 



พนักงานสอบสวน สภ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ควบคุมตัวนายวศิน นามพรม หรือ นิว ผู้ต้องหาร่วมกันฆ่าหั่นศพ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือ น้องแอ๋ม ไปขออำนาจศาลจังหวัดขอนแก่นฝากขังผัดแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง หากได้รับการประกันตัว เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ขณะที่ น.ส.เบนซ์ ถูกนำตัวไปฝากขังตั้งแต่เย็นวานนี้ (31 พ.ค.) และพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกัน ขณะที่ญาติยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 650,000 บาท ขอประกันตัว แต่ศาลไม่อนุญาต โดยจะนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดขอนแก่น และวันนี้ (1 มิ.ย.) ญาติจะขอยื่นประกันอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติออกหมายจับ น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือ แจ้ ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย ปล้นทรัพย์ และรับของโจร


ด้าน พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เรียกประชุมตำรวจชุดสืบสวน เพื่อติดตามจับกุม 3 ผู้ต้องหา ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนีไปประเทศเมียนมาร์ คือ น.ส.กวิตา ราชดา หรือ เอิร์น น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ เปรี้ยว และ น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือ แจ้ โดยตำรวจประสานกับทูตตำรวจเมียนมาร์ เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหา หลังพบหลบหนีไปทำงานที่ร้านโอโซน สปา แอนด์ คาราโอเกะ ประเทศเมียนมาร์ ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผ่านจุดผ่านแดนแม่สาย จ.เชียงราย ยืนยันผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นเพียงผู้ค้ายาเสพติดรายย่อย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติรายใหญ่ตามข่าว และผู้ต้องหายังมีชีวิตอยู่ 

รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เปิดเผยด้วยว่า เหตุสังหาร “น้องแอ๋ม” เกิดจากผู้ตายแจ้งเบาะแสจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดของกลุ่มผู้ต้องหา เมื่อเดือนตุลาคม 2559 ไม่ใช่การฆ่าตัดตอน


ส่วนที่ จ.เชียงราย ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หารือกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร์ หลังบัตรผ่านแดนชั่วคราวของ น.ส.กวิตา ราชดา หรือ เอิร์น น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ เปรี้ยว และ น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือ แจ้ ผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพ “น้องแอ๋ม” หมดอายุ เนื่องจากขอข้ามด่านไปเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อร่วมกันวางแผนติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ขณะที่ตำรวจเมียนมาร์ทราบแหล่งกบดานใหม่ของผู้ต้องหาแล้ว หลังเดินทางออกจากห้องพักข้างร้านโอโซน สปา แอนด์ คาราโอเกะ ฝั่งเมียนมาร์ คาดว่าหลบหนีไปยังเขตรอยต่อ จ.ท่าขี้เหล็ก ห่างจากร้านโอโซน สปา แอนด์ คาราโอเกะ ประมาณ 15-20 กิโลเมตร แต่เนื่องจากเป็นเมืองใหญ่ จึงยากต่อการค้นหา. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง