กทม.1 เม.ย.- กทม. – กกต.กทม. ซ้อมใหญ่การเปิดรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.เขต กทม. มั่นใจพร้อมเต็มร้อย ย้ำผู้สมัคร เอกสารต้องครบ กองเชียร์มาได้แต่เมื่อได้หมายเลขประจำตัวผู้สมัครแล้ว ห้ามจัดมหรสพงานรื่นเริง ย้ำหากผู้สมัครรู้อยู่แล้วว่าไม่มีคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามแล้วมาสมัครจะมีโทษตามกฎหมาย
นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายสำราญ ตันติพานิช ผอ.สถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง ร่วมตรวจการซักซ้อมการรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต ของกรุงเทพมหานคร ทั้ง 33 เขต ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย -ญี่ปุ่น) โดยตั้งเป้าให้การรับสมัครเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และอำนวยความสะดวกให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้ง และเชื่อมั่นว่าจะไม่ติดขัดปัญหาอะไร เนื่องจากได้มีการซักซ้อมมาแล้วหลายครั้ง และถือว่าแผนมีความพร้อมเต็ม 100 เปอร์เซ็น และเจ้าหน้าที่ประจำโต๊ะผู้สมัครยังมีบุคคลที่เป็นเจ้าหน้าที่ที่เคยปฏิบัติหน้าที่มาแล้ว
ส่วนนายสำราญ ตันติพานิช กล่าวว่า กล่าวขอบคุณ กทม. ที่เป็นหน่วยสนับสนุนจัดการรับสมัครเลือกตั้ง และกระบวนการรับสมัครเลือกตั้งมีการซักซ้อมมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งวันนี้เป็นการซักซ้อมสถานที่รับสมัครจริง เป็นการทบทวนขั้นตอนการรับสมัครให้แม่นยำ และในวันรับสมัครจริงจะมีพิธีกรมืออาชีพในการกำกับขั้นตอนการรับสมัครเพื่อป้องกันความสับสนผิดพลาด
พร้อมกันนี้ได้ฝากย้ำเตือนไปยังผู้สมัครรับเลือกตั้ง 3 เรื่องคือ 1. เอกสารหลักฐานประกอบการสมัครรับเลือกตั้งตามมาตรา 45 และ 46 ของพ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งกำหนดไว้ว่าผู้สมัครต้องเตรียมมาให้ครบถ้วนทุกรายการ ซึ่งหากไม่ครบถ้วนต้องให้ผู้สมัครกลับไปเตรียมมาให้พร้อม จริงให้มาสมัครใหม่
2.กองเชียร์ของผู้สมัครรับเลือกตั้งสามารถมาสถานที่รับสมัครได้ ซึ่งเป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ แต่สิ่งที่ห่วงใยในช่วงขามาสามารถร้องรำทำเพลงได้แต่เมื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งได้หมายเลขประจำตัวผู้สมัครแล้ว ต้องระมัดระวังการกระทำความผิดตามกฏหมายเลือกตั้งมาตรา 73(3) ห้ามจัดให้มีงานรื่นเริงหรือมหรสพ หรือเมื่อได้หมายเลขประจำตัวผู้สมัครแล้วให้งดการกระทำเหล่านี้
3.คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ไม่ใช่หน้าที่ของฝ่ายรับสมัครที่ต้องตรวจสอบอย่างเข้มข้น แต่เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสรรหาแต่ละพรรคตามกฏหมาย ซึ่งการตรวจเอกสารหลักฐานคุณสมบัติของฝ่ายรับสมัครเป็นการทบทวนอีกครั้งหนึ่งเท่านั้น ซึ่งหากผู้สมัครคนใดเป็นผู้ที่รู้อยู่แล้วว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติสมัครรับเลือกตั้ง หรือมีลักษณะต้องห้าม จะมีบทลงโทษตามกฎหมายมาตรา 151 ซึ่งหากได้รับเลือกตั้ง ส.ส. ต้องถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งและจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้กับสภาผู้แทนราษฎร
นายสำราญย้ำว่าไม่ได้กังวลเกี่ยวกับความวุ่นวายหรือกรณีการต่อต้านการสมัครรับเลือกตั้ง โดยได้เตรียมระบบการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ทั้งตำรวจ สันติบาล 191 อีโอดี และชุดควบคุมฝูงชนไม่ต่ำวันนะ 170 นาย และการเข้าพื้นที่ต้องมีการผ่านจุดคัดกรองสแกนวัตถุต้องสงสัยก่อนเข้าพื้นที่ หากมีผู้เข้ามาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ทางการเมืองในพื้นที่ทางเจ้าที่ก็จะประเมินสถานการณ์ และต้องดูข้อเท็จจริงว่าการกระทำเข้าข่ายความผิดหรือไม่หรือเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ
โดยเตรียมเจ้าหน้าที่ในการรับสมัครเริ่มปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่เวลา 05:00 น. ของวันที่ 3เมษายนนี้ สำหรับการตั้งโต๊ะตรวจเอกสารของผู้สมัครรับเลือกตั้ง
นอกจากนี้ปลัด กทม.ยังกล่าวสำหรับข้อห่วงใย ที่เป็นบทเรียนจากการเลือกตั้งครั้งก่อน กรณีการลงทะเบียนใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าในเขตและนอกเขตไว้ แต่ไม่ได้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า แล้ววันเลือกตั้งจริงกลับไปใช้สิทธิ์ที่หน้าหน่วยแต่ไม่ปรากฏรายชื่อที่จะไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เนื่องจากมีการลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าไว้แล้ว
ทั้งนี้ในวันอาทิตย์ที่ 2 เมษายน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จะมีการซักซ้อมการรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อที่ อาคารไอราวัต กทม. 2.-สำนักข่าวไทย