ทำเนียบ 28 มี.ค.- “นริศ” ย้ำรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจแก้ปัญหาฝุ่น ชี้ต้องจัดโซนนิ่ง หรือย้ายแหล่งก่อฝุ่นละอองออกนอกพื้นที่เมือง ยกปักกิ่งโมเดล ด้าน “วราวุธ” ขอ กต. คุยเพื่อนบ้านลดการเผา
นายนริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึง ปัญหาฝุ่นละอองในขณะนี้ ถือเป็นเรื่องภัยพิบัติของประเทศไทย เป็นเรื่องใหญ่ของประเทศที่จำเป็นจะต้องร่วมมือกันในทุกหน่วยงานทุกฝ่าย ไม่เพียงแต่หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ในวันอนาคตข้างหน้าต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาแก้ไขการก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรม อาจจะต้องมีโซนนิ่งมากกว่านี้ อย่างเช่นหลายปีที่แล้ว กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน มีฝุ่นเช่นเดียวกัน แต่ปัจจุบันในกรุงปักกิ่งอากาศดีขึ้น เพราะให้แหล่งก่อฝุ่นละอองออกนอกกรุงปักกิ่ง ซึ่งประเทศไทยต้องจำเป็นให้แหล่งก่อฝุ่นละอองออกไปเช่นกัน ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยมอบหมายหน่วยงานในความรับผิดชอบในพื้นที่ไปติดตามสถานะการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอยู่ พร้อมตรวจสอบเรื่องการเตรียมงบประมาณ ในปีงบประมาณปี 67-68 ไว้ด้วย นอกจากนี้ ยังต้องเตรียมการให้ฝุ่นละอองออกจากกรุงเทพพฯให้ได้ รวมถึงหลายๆ เมืองด้วย ขอให้ประชาชนมั่นใจ ว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ
นายนริศ กล่าวถึงปัญหาภัยพิบัติที่ไทยกำลังเผชิญขณะนี้ โดยเฉพาะพายุฤดูร้อนลูกเห็บตก ระหว่างวันที่ 25-27 มีนาคมนี้ รัฐบาลได้มีการประกาศแจ้งเตือนให้แต่ละจังหวัดรับมือแล้ว และยืนยันรัฐบาลรับมือได้
ส่วนอากาศร้อนจัดที่จะเกิดขึ้นในขณะนี้ต่อเนื่องจนถึงเดือนเมษายนนั้น นายนริศ กล่าวว่า หากส่งผลกับประชาชนจนเกิดเป็นภัยพิบัติก็สามารถประกาศให้เป็นภัยพิบัติได้ เพียงแต่สภาพอากาศในขณะนี้ ยังไม่ถึงขั้นที่จะประกาศได้เหมือนกับต่างประเทศ แต่ประเทศไทยเคยมีอุณหภูมิสูงถึง 40 องศาฯ แต่ยังไม่ถึง 45 องศาฯ
นายนริศ กล่าวด้วยว่า ช่วงนี้ใกล้ช่วงเทศกาลสงกรานต์แล้ว จะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมากนั้น สัปดาห์หน้าจะมีการหารือถึงมาตรการป้องกันการเดินทางสัญจรไปมา โดยจะใช้ทุกมาตรการของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอย่างเข้มข้น ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่าในวันนี้ ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี จะหยิบยกปัญหาและอุปสรรคของหน่วยงานในกำกับที่เข้าไปแก้ไขฝุ่นละอองในพื้นที่ภาคเหนือให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้รับทราบ โดยมองว่ากระทรวงการต่างประเทศอาจจะต้องมีมาตรการเพื่อหารือกับประเทศเพื่อนบ้าน ให้ลดการเผา ซึ่งเป็นต้นเหตุของฝุ่นละออง และเป็นส่วนหนึ่งที่เข้ามาในประเทศไทย.-สำนักข่าวไทย