ระยอง 28 ก.พ.- ไทย-สหรัฐ เปิดการฝึกคอบร้าโกลด์ 2023 มิตรประเทศร่วมคับคั่ง ตอกย้ำ เป็นการฝึกร่วมทางทหาร ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด นาย โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค (Robert F. Godec) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และ พลเรือเอก จอห์น ซี. อากีลีโน (John C. Aquilino) ผู้บัญชาการกองกำลังสหรัฐอเมริกาภาคพื้นอินโด-แปซิฟิก เป็นประธานร่วมในพิธีเปิดการฝึกคอบร้าโกลด์ 2023 ณ สถานีการบิน กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ จังหวัดระยอง โดยมี เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย และเอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำประเทศไทย เข้าร่วมพิธีฯ
สำหรับการฝึกคอบร้าโกลด์ 2023 เป็นการฝึกร่วมผสมทางทหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกองทัพไทย และกองกำลังสหรัฐอเมริกา ภาคพื้นอินโด-แปซิฟิก ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดการฝึกในประเทศไทยเป็นประจำทุกปี การฝึกคอบร้าโกลด์
ในปีนี้ เป็นครั้งที่ 42 โดยมีประเทศเข้าร่วมการฝึกหลักจำนวน 7 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย สาธารณรัฐเกาหลี และมาเลเซีย ประเทศที่เข้าร่วมการฝึกเพิ่มเติมในโครงการช่วยเหลือประชาชน จำนวน 3 ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน อินเดีย และออสเตรเลีย
นอก จากนี้ ยังมีประเทศในโครงการเสนาธิการผสมส่วนเพิ่มนานาชาติ หรือ MPAT (Multinational Planning Augmentation Team) จำนวน 10 ประเทศ ประกอบด้วย บังกลาเทศ แคนาดา ฝรั่งเศส มองโกเลีย เนปาล นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ ฟิจิ สหราชอาณาจักร และบรูไน สำหรับประเทศที่เข้าร่วมในโครงการสังเกตการณ์ฝึก (Combined Observer Liaison Team) : COLT) จำนวน 10 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา ลาว บราซิล ปากีสถาน เวียดนาม เยอรมนี สวีเดน สาธารณรัฐเฮลเลนิก คูเวต และศรีลังกา รวมทั้งสิ้น 30 ประเทศ ยอดผู้เข้าร่วมการฝึกฯ จำนวน 7394 นาย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ทางทหารที่ดี ระหว่างมิตรประเทศที่เข้าร่วมการฝึกฯ และเป็นการพัฒนาขีดความสามารถในการอำนวยการยุทธ์ร่วมและผสม โดยการประยุกต์ ใช้กำลังรบในสถานการณ์วิกฤตต่าง ๆ อีกทั้งเพื่อฝึกการใช้ระเบียบปฏิบัติประจำกองกำลังผสมนานาชาติ ซึ่งการฝึกคอบร้าโกลด์ 2023 ในปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว จึงได้กำหนดแผนการฝึกให้กลับมาฝึกเต็มรูปแบบเหมือนเดิม
อย่างไรก็ตาม กองทัพไทย ยังคงใช้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มข้น. สำนักข่าวไทย