กรุงเทพ 23 ก.พ.-MD คนใหม่ของ GGC “กฤษฎา ประเสริฐสุโข” ประกาศพร้อมสานต่อวิสัยทัศน์ เป็นผู้นำผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม พร้อมขับเคลื่อนพลังแห่งการสร้างสรรค์เพื่อคุณค่าที่ยั่งยืน ภายใต้กลยุทธ์ “The New Chapter of GGC to be the Sustainable Growth Business “สู่การเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน โดยเฉพาะการผลิตน้ำมันเครื่องบินสูตรผสมปาล์มและเอทานอล หรือ ไบโอเจ็ทเพื่อลดปัญหาการปล่อยก๊าซคาร์บอนในอากาศ
นายกฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการคนใหม่ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด(มหาชน) หรือ GGC เปิดเผยว่า พร้อมสานต่อวิสัยทัศน์เป็นผู้นำผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม พร้อมขับเคลื่อนพลังแห่งการสร้างสรรค์เพื่อคุณค่าที่ยั่งยืน ภายใต้กลยุทธ์ “The New Chapter of GGC to be the Sustainable Growth Business “ ด้วยแนวคิด “GGC DNA” โดย G ตัวแรก คือ Great in Green เพื่อเพิ่มมูลค่าวัตถุดิบทางการเกษตร G ตัวที่สอง คือ Growth in BCG มุ่งมั่นการเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อมระดับโลก และ C ตัวสุดท้าย คือ Compliance in ESGs ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามกฎหมาย
นายกฤษฎา กล่าวด้วยว่า การเพิ่มมูลค่าวัตถุดิบทางการเกษตรนั้น ขอยกตัวอย่างเช่น ขณะนี้เรามีชาวสวนปาล์มน้ำมันที่อยู่ในการดูแลของ GGC ประมาณ 2 ล้านไร่ เรามีโครงการทำ”ปาล์มยั่งยืน”เพื่อที่จะทำให้ผู้บริโภค เชื่อมั่นว่า วัตถุของเรากรีนจริงๆเพื่อแข่งขันในตลาดโลก เพราะโลกกำลังเปลี่ยน โลกต้องการกรีนฟูเอล นอกจากนี้ทาง GGC ยังมีเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในอากาศ ดังนั้นเราจึงมีโครงการไบโอเจ็ท หรือ น้ำมันเครื่องบินสูตรผสมปาล์มและน้ำมันเครื่องบินสูตรผสมเอทานอลซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนเตรียมความพร้อมโดยจะร่วมมือกับกลุ่ม ปตท. ส่วนเรื่องไบโอ พลาสติกนั้น ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วที่จังหวัดนครสวรรค์ โดยขณะนี้กำลังก่อสร้างโรงงาน คาดว่าปลายปี 2566 หรือ ต้นปี 2567 จะแล้วเสร็จและจะเริ่มทดสอบระบบได้ในต้นปีหน้า
ทั้งนี้ในปี 2566 ยังมีความท้าทาย ด้วยการตั้งเป้าใน 3 กลยุทธ์หลักคือ
1.กลยุทธ์การยกระดับความสามารถในการแข่งขัน เช่นการบริหารจัดการต้นทุนเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันตลอดห่วงโซ่อุปทานและการสร้างการ Integrate ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง โดยบริหารจัดการตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่วัตถุดิบ ระบบโลจิสติกส์ ถังเก็บ คลังสินค้าและสินค้าคงคลังให้มีประสิทธิภาพ ต้นทุนต่ำและคุ้มค่า
2.กลยุทธ์การเติบโตในผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม มุ่งเน้นใน 3 ธุรกิจหลักคือ ธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพ ธุรกิจเคมีชีวภาพและธุรกิจส่วนประกอบอาหารและโภชนเภสัช
3.กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ครอบคลุมใน 3 มิติ คือ ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคม และด้านกำกับดูแล
สำหรับผลดำเนินงานในปี 2565 บริษัทสร้างรายได้จากการขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 25,084 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิ 953 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย