ทำเนียบ 21 ก.พ.-“สมศักดิ์” มั่นใจ พปชร.ได้เป็นรัฐบาล 99% โยนให้ ”สุริยะ” ตัดสินใจ สามมิตรย้ายพรรคหรือไม่ รับกังวล ระเบียบใหม่ กกต. ยุบพรรคเร็วขึ้น กระทบทุกพรรคการเมืองที่มีคดีความ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงระเบียบ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต. )ว่าด้วย การรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรคการเมือง พ.ศ.2566 ที่ปรับแก้เรื่องการยุบพรรคการเมือง ทำให้กระบวนการสอบสวนการยุบพรรคเร็วขึ้น จะส่งผลกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ เนื่องจากเคยได้รับเงินบริจาคจากทุนสีเทา ว่า กกต.ก็มีสิทธิ์ ที่จะออกประกาศได้ และ สามารถนำกฎหมายฉบับดังกล่าวไปใช้ได้ จากเดิมที่อาจจะใช้เวลาในการตรวจสอบนานกว่านี้ อาจเป็น 3 ปี 7 ปี แต่มาใช้ระยะเวลาตรวจสอบที่รวดเร็วขึ้น อาจใช้เวลา 3 เดือน 7 เดือน ก็อาจจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ กกต. และการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ยอมรับว่า จะได้รับผลกระทบทุกพรรคการเมืองที่มีคดีความอยู่
ส่วนที่สังคมมองว่าพรรคพลังประชารัฐ จะตกเป็นเหยื่อในการยุบพรรคเป็นพรรคแรก หลังออกประกาศนี้ เพราะมีประเด็นร้อนรับเงินบริจาคจากกลุ่มทุนจีนสีเทา นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องถามยังฝ่ายกฎหมายพรรคพลังประชารัฐว่าเดือดร้อนขนาดไหนอย่างไร แต่ตนไม่ได้ทำหน้าที่ตรงนี้ พร้อมทั้งปฏิเสธว่าจะต้องเตรียมความพร้อมอย่างไร
“ในชีวิตทางการเมืองมีประสบการณ์ยุบพรรคแล้วถึง 2 ครั้ง ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทยและพรรคมัชฌิมาธิปไตย ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี การยุบพรรคสามารถทำได้ง่ายเหมือนกัน ถ้าหากต้องการให้ยุบหรือมีพลังอะไรเข้ามา ซึ่งต้องดูว่าถ้าพรรคการเมืองมีพลังต่อต้านการยุยก็คงไม่ง่าย การยุบพรรคการเมืองเป็นสิ่งที่กลัวที่สุด ซึ่งก็ต้องมีเหตุแห่งปัญหา” นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวถึงกระแสข่าวกลุ่มสามมิตรจะย้ายพรรคในช่วงโค้งสุดท้ายยุบสภา ว่า 7 ก.พ.ถือว่าหมดเวลาที่จะย้ายพรรค แต่ยืนยัน ว่านายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ไปไหน ตนก็ไปด้วย เพราะฉะนั้นนักข่าว ก็ไม่ต้องมาถามตน หากนายสุริยะ ว่าอย่างไร ก็ว่าตามนั้น
เมื่อถามย้ำว่าหากมีการยุบสภาแล้ว ก็มีช่วงเวลาที่สามารถจะย้ายพรรคได้อีก นายสมศักดิ์ ระบุว่า “ก็ไม่รู้สิ ไปเปิดทางให้เขา”
นายสมศักดิ์ ยังย้ำว่า หากยุบสภาแล้วไม่เปลี่ยนใจ ยังไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกับนายสุริยะ เพิ่มเติม ซึ่งให้เขาเป็นคนตัดสินใจ เพราะรู้จักกันมานาน 30 ปี
นายสมศักดิ์ กล่าวถึงหนึ่งใน ปัจจัยที่ยังไม่สามารถอยู่สภาได้ในขณะนี้ เนื่องจาก กกต. ยังแบ่งเขตการเลือกตั้งไม่เรียบร้อย ทั้งนี้ มอง การจับขั้วทางการเมืองขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน ต้องรอดูหลังการเลือกตั้ง แต่ส่วนตัวมั่นใจพรรคพลังประชารัฐจะได้เป็นรัฐบาล 99% แน่นอน และนโยบายหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐที่เดินทางสายกลาง ไม่ทำให้พรรคลำบาก ซึ่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐมีความพยายามในการทำงาน และหัวหน้าพรรคมีความสด ดูได้จากสีเสื้อที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ สวมใส่ เมื่อถามย้ำว่า กลุ่มสามมิตร จะยังอยู่กับ พลังประชารัฐต่อใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวทีเล่นทีจริง ว่า ก็ไม่แน่. สำนักข่าวไทย