หนองคาย 21 พ.ค. – ศุลกากรหนองคายรวบแก๊งอุ้มบุญคาด่านตรวจ ขณะกลับจากฝั่งลาว สารภาพรับจ้างชาวจีนให้ไปฝังตัวอ่อนอุ้มบุญที่ประเทศเพื่อนบ้าน แต่ตรวจร่างกายไม่ผ่าน จึงต้องเดินทางกลับ
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบรถยนต์เชฟโรเลต ทะเบียน 3 กส 8296 กรุงเทพมหานคร ที่ขับมาจากประเทศลาว ผ่านด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย ที่มีนายนิคม สีมารัตน์ เป็นคนขับ พบหญิงสาว 6 คน อายุระหว่าง 25-34 ปี นั่งโดยสารมาในรถจนเต็ม และยังพบถังไนโตรเจนเปล่า 1 ใบ กล่องโฟมปิดเทปกาวแน่นหนา ภายในมีหลอดพลาสติกรูปทรงกรวย 42 หลอด ด้านบนปิดแถบพลาสติกเขียนตัวอักษร yy / tj / yg แต่ละหลอดระบุวันที่ไว้ กล้องจุลทรรศน์ 1 ตัว พร้อมเครื่องสำรองไฟ 1 เครื่อง จึงนำตัวไปแยกสอบสวน ตอนแรกทุกคนให้การขัดแย้ง ข้อมูลไม่ตรงกัน
กระทั่งเจ้าหน้าที่พบสมุดบันทึกในกระเป๋าของหญิงสาวคนหนึ่งชาวอำนาจเจริญ มีการจดบันทึกรายชื่อผู้หญิง 7 คน ที่ทำการใส่ตัวอ่อน และผลการใส่ตัวอ่อนว่าใครใส่แล้วติดหรือใส่แล้วหลุด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จึงยอมรับสารภาพว่า รับจ้างชาวจีนผ่านนายหน้าคนไทย อุ้มบุญในราคาตั้งแต่ 100,000-400,000 บาท โดยได้รับเงินหลังคลอดเสร็จ ซึ่งครั้งนี้มีหญิงสาวทั้งหมด 6 คน เดินทางไปประเทศลาว ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยนายจ้างชาวจีนออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด มีนายนิคมเป็นคนมารับ-ส่ง และนำไปตรวจร่างกายที่สถานบริการแห่งหนึ่งในนครหลวงเวียงจันทน์ แต่มี 2 คน ตรวจร่างกายไม่ผ่าน อีก 3 คน มีปัญหาขัดข้องบางประการ ทำให้ไม่มีใครได้ฝังตัวอ่อน จึงต้องเดินทางกลับโดยยังไม่ได้ฝังตัวอ่อน ประกอบกับถังไนโตรเจนที่พบเป็นถังเปล่า ไม่มีเชื้ออสุจิหรือตัวอ่อนอยู่ภายใน จึงยังไม่ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ.2558 ศุลกากรจึงทำได้เพียงเปรียบเทียบปรับนายนิคม ในฐานความผิดลักลอบหนีศุลกากร ก่อนปล่อยตัวไป และยึดของกลางทั้งหมด.-สำนักข่าวไทย