สำนักข่าวไทย 27 ม.ค. – “อนุทิน” รมว.สาธารณสุข ยันย้าย “นพ.สุภัทร” ผอ.รพ.จะนะ ไม่เกี่ยวการเมือง แจงคนเก่งอยู่ไหนก็ทำงานได้ การย้ายไม่ย้อนแย้งกับปณิธานชมรมแพทย์ชนบท ส่วนชาวบ้านรวมกันค้าน ทำได้ ทุกคนมีสิทธิแสดงความคิดเห็น
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันย้าย นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.รพ.จะนะ ไม่เกี่ยวกับการเมือง เป็นเรื่องของข้าราชการประจำ เพราะรัฐมนตรีไม่ได้ลงไปรู้จักกับ ผอ.รพ.ชุมชน พร้อมปฏิเสธมูลเหตุการโยกย้ายมาจากวิจารณ์นโยบายกัญชาและการควบคุมโควิด เพราะฝ่ายการเมืองจะไปหวั่นไหวกับทุกเรื่องได้อย่างไร การเมืองดูแลเรื่องนโยบาย ส่วนปลัดกระทรวงถ่ายทอดนโยบายไปยังข้าราชการ หากนโยบายใดไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ถูกระเบียบก็สามารถเลือกไม่ปฏิบัติตามได้ ดังนั้น อย่าเอารัฐมนตรี เอาเรื่องการเมืองเข้าไปข้องเกี่ยว
ส่วนกรณีที่ไม่ได้ถามความสมัครใจของเจ้าตัวก่อนโยกย้ายนั้น เป็นเรื่องของทางราชการ โดยที่ปลัดสาธารณสุขไม่ต้องมารายงานตน สำหรับกรณีที่พรรคการเมืองอย่าง ก้าวไกลออกมาตั้งข้อสังเกตไม่เห็นด้วยกับคำสั่งย้าย นพ.สุภัทร นั้น หากคนที่ไม่เข้าใจ ก็อาจคิดว่าเป็นเรื่องการเมือง แต่คนที่เข้าใจจะรู้ว่าเป็นเรื่องของการทำงาน เป็นอำนาจของปลัดสาธารณสุขในการบริหารจัดการ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง โดยระบุว่าการโยกย้ายแบบนี้ ก็เคยเกิดมาแล้ว สมัย นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผอ.รพ.ขอนแก่น ย้ายไป รพ.ร้อยเอ็ด ทุกวันนี้ รพ.ร้อยเอ็ด กลายเป็น รพ.ที่มีประสิทธิภาพ เรื่องนี้อยู่กับบุคคล คนเก่งไปอยู่ไหนก็ได้ อยู่ไหนก็ทำความเจริญ ถ้าเรามีความมั่นใจว่าทำความเจริญ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาทำอะไร หลังจากย้ายไปแล้ว เวลาที่ใครถูกย้ายแล้วโวยวาย ส่วนใหญ่ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่า อาจทำอะไรไม่ดีไม่งามไว้ แล้วกลัวคนมาตรวจสอบ
นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนที่ นพ.สุภัทร ระบุว่าย้ายไป รพ.สะบ้าย้อย ต้องการให้ได้รับความลำบาก เพราะเป็นพื้นที่ห่างไกล นั้น เรื่องนี้ย้อนแย้งกับเหตุผล และเจตนารมย์ของ นพ.สุภัทร ที่ดำรงตำแหน่งประธานชมรมแพทย์ชนบท ส่วนกรณีประชาชน หรือภาคประชาชนรวมตัวกันคัดค้านการย้าย นพ.สุภัทร นั้น ทุกคนมีสิทธิแสดงความคิดเห็นได้ แต่ขอให้แสดงออกตามขอบเขตกฎหมาย อย่าโทษเรื่องการเมือง เพราะไม่มีความเชื่อมโยงกัน คำสั่งทางการเมืองจะต้องเป็นไปตามขอบเขตตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย