วัดเล่งเน่ยยี่ 19 ม.ค. – กรมอนามัยหนุนเทศกาลตรุษจีนงดจุดธูปเทียน เผากระดาษเงินทอง หวังลดฝุ่น PM.10 ก่อมลพิษและสุขภาพ โดยขอให้หากจำเป็นใช้ธูปเทียนไร้ควัน ด้านเจ้าอาวาสวัดเล่งเน่ยยี่ 2 เผยความเชื่อทางศาสนาอดีตพุทธกาลใช้แค่ 10 นิ้วพนม ธูปเทียนเพิ่งมาทีหลัง
นพ.อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวในการเป็นประธานรณรงค์เทศกาลตรุษจีนประจำปี 2566 ณ วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ (วัดเล่งเน่ยยี่ 2) ว่าเทศกาลตรุษจีนชาวไทยเชื้อสายจีนส่วนใหญ่จะประกอบพิธีไหว้เจ้าไหว้บรรพบุรุษ มีการจุดธูปเผากระดาษเงินกระดาษทอง แม้เป็นการสืบสานวิถีวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่า แต่การจุดธูปและเผากระดาษเงินกระดาษทองจะเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM.10 และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ , ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์, ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์, ก๊าซมีเทน, ฟอร์มาลดีไฮด์ และสารอินทรีย์ระเหยง่าย รวมทั้งโลหะหนักจากขี้เถ้าธูป อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ผลสำรวจอนามัยโพลเรื่องป้องกันฝุ่นป้องกันโรคอย่างไรในช่วงเทศกาลตรุษจีน ระหว่าง วันที่ 7-17 มกราคม 2566 พบว่าประชาชนยังจุดธูปเทียน ร้อยละ 26.44 ไหว้บรรพบุรุษแบบรวมญาติและกินอาหารร่วมกันร้อยละ 22.85 เผากระดาษเงินกระดาษทองและสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ เพื่อไหว้บรรพบุรุษ ร้อยละ 19.26 จึงขอเชิญชวนให้ตรุษจีนนี้ร่วมกันลดควัน ลดฝุ่นลดผลกระทบต่อสุขภาพด้วยการเลือกใช้ธูปขนาดสั้น เทียนไร้ควัน หรือหากจำเป็นจุดธูปเทียน เลี่ยงจุดธูป หรือเผากระดาษเงินกระดาษทอง ควรสวมหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นและสารเคมีเข้าตัว เมื่อเสร็จพิธีกรรมควรล้างมือ ล้างหน้า ล้างตา เก็บกวาดก้านธูปขี้เถ้าใส่ถุงมัดปากให้แน่นนำไปกำจัดให้ถูกต้อง
ด้านพระอาจารย์จีนคณาณัติจีนพรต (เย็นงี้) เจ้าอาวาสวัดเล่งเน่ยยี่ และรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัด บรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ (เล่งเน่ยยี่ 2) กล่าวว่า สมัยพระพุทธเจ้าเรื่องการจุดธูปจุดเทียนนั้นไม่มี ใช้เพียง 10 นิ้ว พนมอธิษฐานบูชา การจุดธูปเทียนเพิ่งมาจากการได้รับอิทธิพลศาสนาพราหมณ์เข้ามาจากจีนเข้ามาไทย ซึ่งเมื่อรัฐบาลมีการรณรงค์ลดควันธูป ทางวัดฯ ก็ร่วมรณรงค์ด้วย โดยได้ยกเลิกการจุดธูปมานานเป็นสัปดาห์แล้วเหลือเพียงการจุดเทียนไร้ควัน ส่วนวัดเล่งเน่ยยี่ 2 มีพื้นที่มากกว่า ได้ปรับการวางกระถางธูปจากในวิหารเหลือเพียงกระถางธูปกลางแจ้งและเลือกใช้เฉพาะธูปตันไร้ควันเทียนไร้ควัน จุดพอเป็นพิธีเท่านั้น. -สำนักข่าวไทย