พรรคเพื่อไทย 19 ม.ค.- “วิชัย – ขจรศักดิ์” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทย แถลงขอโทษประชาชน ยืนยัน ตาสว่างแล้ว พร้อมพิสูจน์ตัวเอง เดินหน้าสู่แลนด์สไลด์
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา ประธานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายวิชัย ล้ำสุทธิ ผู้ซึ่งประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ระยอง พรรคเพื่อไทย นายขจรศักดิ์ ประดิษฐาน ผู้ซึ่งประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กทม.เขตห้วยขวาง-วังทองหลาง พรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าวขอโทษประชาชนคนรักประชาธิปไตย โดยมี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย ร่วมให้กำลังใจ
นายวิชัย ยอมรับว่า เป็นผู้ร่วมจดทะเบียนก่อตั้งพรรคพรรคไทยภักดีจริง โดยขอชี้แจงว่า การก่อตั้งพรรคการเมือง ต้องลงตำแหน่งตามกฎหมาย ซึ่งตอนนั้นตนลงลายชื่อเป็นเลขาพรรคไทยภักดีเพื่อให้การก่อตั้งพรรคเสร็จสมบูรณ์ เมื่อก่อตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้วตนได้ลาออกจากพรรคไทยภักดีตั้งแต่ 18 ตุลาคม 2564 พร้อมยืนยันว่า ตนเป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 2 สมัย ตลอดระยะเวลาการทำงานการเมือง ไม่เคยใส่ร้ายผู้ใด ไม่ว่าจะเป็น นายทักษิณ ชินวัตร และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี การทำงานการเมืองของตนมุ่งมั่นทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะในเขตพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอนิคมพัฒนาและอำเภอบ้านฉาง สำหรับการตัดสินใจเข้ามาสังกัดพรรคเพื่อไทย เนื่องจากขณะนี้ปัจจุบันประเทศไทยสภาพเศรษฐกิจย่ำแย่ เป็นความทุกข์ยากแสนสาหัส ส่งผลกระทบต่อคนไทยทั้งประเทศ เพราะการบริหารงานของรัฐบาลที่ไม่เข้าใจในระบบเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทยเข้าใจและเข้าถึงประชาชน
นายวิชัย ยังกล่าวว่า ที่ผ่านมาได้เห็นว่าพรรคไทยรักไทย คิดได้และทำได้จริง ไม่ว่าจะเป็นนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค หรือกองทุนหมู่บ้าน เป็นต้น จนมาถึงปัจจุบันที่ได้คิดค้นหลากหลายนโยบาย จากเหตุผลดังกล่าวจึงเล็งเห็นว่า พรรคเพื่อไทย จะเป็นพรรคที่สามารถแก้ไขปัญหาปากท้องพี่น้องประชาชน ให้มีสภาพชีวิตความเป็นอยู่ มีความกินดีอยู่ดี มีชีวิตที่มั่งคั่งต่อไปในอนาคต จึงตกลงปลงใจอยู่พรรคนี้
“ในอดีตที่ผ่านมา สิ่งใดที่ผมทำให้เกิดขุ่นข้องหมองใจไม่ว่าจะเป็นผู้ร่วมอุดมการณ์ ผู้รักประชาธิปไตย ทุกท่าน ผมต้องขอกราบขออภัย ปัจจุบันทั้งตัวและหัวใจอยู่เพื่อไทย 100% พวกท่านไม่ต้องวิตกกังวล ผมจะมุ่งมั่นปักธงใน จ.ระยองให้ได้ หวังว่าพี่น้องประชาชน ชาวอำเภอนิคมพัฒนา อำเภอบ้านฉาง ไว้วางใจให้ผมทำหน้าที่เป็นผู้แทนของท่านในครั้งนี้ต่อไป” นายวิชัย กล่าว
ด้านนายขจรศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนได้ลงพื้นที่ทำงานอย่างหนักเพื่อพบปะประชาชน จนพรรคเพื่อไทยได้ประกาศเปิดตัวเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในเขตห้วยขวางและวังทองหลาง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่พรรคประกาศให้เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ได้มีการนำภาพในอดีต ที่ตนได้เข้าร่วมสังเกตการณ์ในการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่ม กปปส. ออกมาเผยแพร่ ด้วยจุดประสงค์ทางการเมือง ตนยอมรับว่าในวันนั้นได้ไปในที่ชุมนุมจริง แต่ไปในสถานะผู้ร่วมสังเกตการณ์ และการเข้าร่วมสังเกตการณ์ครั้งนั้น เป็นการเข้าใจผิด มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนจากข้อมูลที่แท้จริง ซึ่งในอดีตตนยอมรับผิดและคิดได้ เมื่อเวลาผ่านไป ทำให้ตนเองได้ศึกษาข้อมูล และความจริงหลายประการเริ่มปรากฏสู่สังคม
โดยกรณีคดีต่างๆที่กลุ่มนักการเมืองบางคน บางกลุ่ม ได้ใส่ร้ายป้ายสี นายทักษิณ และนางสาวยิ่งลักษณ์ ไม่มีฐานข้อมูลที่เป็นจริง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่ออดีตนายกรัฐมนตรีทั้งสอง แต่ในที่สุดภาพเริ่มชัดขึ้นมาเรื่อยๆ จนวันนี้ตนเชื่อด้วยความบริสุทธิ์ใจว่า อดีตนายกรัฐมนตรีทั้งสอง ถูกรังแกทางการเมือง โดยใช้กระบวนการยุติธรรม กระทำจนไม่มีที่อยู่ในบ้านเกิด และ 9 ปีหลังการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มการเมืองนั้น เป็นที่มาของการได้มาเป็นนายกรัฐมนตรีของคนปัจจุบัน เป็น 8 ปีที่แสนสาหัส ทั้งด้านปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจ ยาเสพติด ตกงาน ล้วนเป็นปัญหาที่ถาโถม ตนเป็นเพียงนักธุรกิจคนหนึ่งที่ประสบปัญหา อยู่ในวงปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะการบริหารที่ผิดพลาดของรัฐบาลนี้ พรรคที่ทำงานได้ ทำงานเป็นคือพรรคเพื่อไทย ผมจึงเสนอตัวเพื่อให้พรรคเพื่อไทย พิจารณาเพื่อขอโอกาสทำงานกับพรรคเพื่อไทย
“ผมขอกราบขอโทษ อดีตนายกรัฐมนตรี ดร.ทักษิณ และนางสาวยิ่งลักษณ์ ที่เคยล่วงเกินท่าน และกราบขอโทษพี่น้องชาวเสื้อแดง กลุ่มผู้รักประชาธิปไตย ที่ทำให้ท่านไม่สบายใจ ผมยืนยันว่าหากผมได้รับโอกาสจากท่าน จากพรรคผมจะทำงานให้เต็มที่เพื่อทุกท่าน วันนี้ผมตาสว่างแล้วครับ” นายขจรศักดิ์ กล่าว
ขณะที่ ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ก่อนที่ผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ทั้งสองคนจะเข้ามาเสนอตัวทำงานกับพรรคเพื่อไทย ได้สอบถามทั้งสองคน และมีการยืนยันว่า มีหัวใจประชาธิปไตย นายวิชัยเป็นนักกฎหมาย เป็นผู้จดทะเบียนก่อตั้งพรรคไทยภักดี เมื่อดำเนินการจดทะเบียนก่อตั้งพรรคแล้วเสร็จ หลังจากนั้น 1 เดือนจึงลาออก ไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองของพรรคแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยทุกคน ยังเป็นว่าที่ผู้สมัคร หลังจากนี้พรรคจะยังคงตรวจสอบความต้องการของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตามหลักการประชาธิปไตยว่า แต่ละพื้นที่ให้การสนับสนุนมากน้อยเพียงใด มีความตั้งใจ ทุ่มเททำงานอาสารับใช้พี่น้องประชาชนมากน้อยเพียงใด ซึ่งเป็นปัจจัยที่พรรคจะพิจารณากับผู้สมัครทุกเขตเลือกตั้ง.-สำนักข่าวไทย