กรุงเทพฯ 4 พ.ค. – GPSC กำไรสุทธิไตรมาส 1/60 ลดลง 14% จากปันผลราชบุรีเพาเวอร์ลดลง มั่นใจทั้งปียังไปได้ดี เพราะมีพลังงานทดแทนเข้าระบบ
นายเติมชัย บุนนาค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำในการดำเนินธุรกิจไฟฟ้าและสาธารณูปโภคของกลุ่ม ปตท. เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2560 บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 5,366 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 750 ล้านบาท โดยเมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ของปี 2559 คิดเป็นรายได้ที่เพิ่มขึ้น 904 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20% ส่วนกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 331 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 79%
ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบไตรมาสแรกปี 2559 บริษัทฯ มีรายได้ลดลง 118 ล้านบาท คิดเป็น 2% กำไรสุทธิลดลง 121 ล้านบาท หรือลดลง 14% โดยเป็นผลจากการรับเงินปันผลจากบริษัท ราชบุรีเพาเวอร์ จำกัด ลดลง 60 ล้านบาท ประกอบกับ โรงไฟฟ้า IRPC -CP กำไรลดลงจากลูกค้ามีการหยุดซ่อมบำรุง
สำหรับทิศทางธุรกิจไฟฟ้าไตรมาส 2 ยังคงมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากประมาณการใช้ไฟฟ้าช่วงเดือนพฤษภาคม – สิงหาคมปี 2560 เพิ่มขึ้น 68,198 ล้านหน่วย ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงเดือนมกราคม- เมษายน ปี 2560 เท่ากับ 5,853 ล้านหน่วย หรือเพิ่มขึ้น 9.39% ซึ่งเป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจขยายตัว ขณะเดียวกันคณะกรรมการกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติปรับอัตราค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (Ft) ที่จะเรียกเก็บค่าไฟฟ้างวดเดือนพฤษภาคม- สิงหาคมเพิ่มขึ้น 12.52 สตางค์ต่อหน่วย เนื่องจากต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติที่เป็นปัจจัยหลักการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าฐานปรับเพิ่มขึ้นเป็น 3.5079 บาทต่อหน่วย หรือเพิ่มขึ้น 3.7% เป็นผลให้บริษัทฯ ได้รับประโยชน์สูงสุด จากการปรับค่า Ft ที่สูงขึ้น โดยการบริหารสินทรัพย์ตามแผนการดำเนินงาน โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) ของบริษัทฯ จะเป็นโรงไฟฟ้าที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด เมื่อเทียบกับโรงไฟฟ้าประเภทอื่น รวมทั้งบริษัทฯ ยังมุ่งมั่นในการบริหารจัดการต้นทุนเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด บนภาวะทิศทางของราคาต้นทุนเชื้อเพลิงที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาก๊าซธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการดำเนินธุรกิจปี 2560 บริษัทฯ จะมีการรับรู้รายได้เต็มปี จากโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน สำหรับสหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งจันทบุรี จำกัด และรับรู้ส่วนของกำไรจากโรงไฟฟ้าบางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น โครงการ 2 ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าประเภท SPP ไตรมาส 3 นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงครึ่งหลังของปี 2560 จำนวน 2 โครงการ ประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ อิจิโนเซกิ โซล่าร์ พาวเวอร์ ในประเทศญี่ปุ่น และโครงการ โรงไฟฟ้า ไออาร์พีซี คลีนพาวเวอร์ ระยะ 2 ที่จะมีการรับรู้รายได้ไตรมาส 4.- สำนักข่าวไทย