สมุทรสาคร 16 พ.ย. – กรมปศุสัตว์ ร่วมกับตำรวจ บก.ปคบ. บุกตรวจห้องเย็น จ.สมุทรสาคร หลังได้รับเบาะแสว่าเก็บเนื้อสุกรที่ลักลอบนำเข้ามาจากต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต มากถึง 4 ตัน แต่กลับพบจริงกว่า 400 ตัน
นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า มอบหมายให้นายสัตวแพทย์ชัยวัฒน์ โยธคล รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ นำกำลังเจ้าหน้าที่กองสารวัตรและกักกัน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) รวม 30 นาย เข้าตรวจสอบห้องเย็นแห่งหนึ่งในอำเภอเมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งประกอบกิจการลักษณะรับฝากและผลิตจำหน่ายสินค้าปศุสัตว์ เนื่องจากได้รับเบาะแสว่าห้องเย็นแห่งนี้เก็บซากสุกรที่นำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาตที่อาจมากถึง 4 ตัน แต่เมื่อเข้าตรวจสอบพบซากสุกรในลักษณะเป็นชิ้นส่วนสุกรทั้งหมด ได้แก่ คากิ ลำไส้ ลิ้น จมูก และหาง รวม 439,599 กิโลกรัม หรือกว่า 430 ตัน มูลค่าของกลางกว่า 40,000,000 บาท
ทั้งนี้ การนำเข้าสัตว์ ชิ้นส่วน หรือซากสัตว์ ต้องได้รับอนุญาตและต้องตรวจโรคจากประเทศต้นทาง โดยประเทศต้นทางต้องไม่มีโรคระบาด หากมีการลักลอบนำเข้าสัตว์หรือตัวสัตว์จะไม่มีการตรวจสอบความปลอดภัยหรือตรวจสอบโรคระบาด สร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรของไทย เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโรคสัตว์ รวมถึงต้องประคับประคองดูแลไม่ให้โรคระบาดกลับมาซ้ำได้ หากยังมีชิ้นส่วนสุกรหรือตัวสัตว์ที่มีโรคเข้ามา เป้าหมายที่ ASF จะเป็นศูนย์เป็นไปได้ยาก รวมถึงเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรยังบอบช้ำและยังอยู่ระหว่างฟื้นฟูระบบการเลี้ยง หากมีการลักลอบนำเข้ามาโดยไม่ได้เปิดตลาดเป็นการทำร้ายเกษตรกรทางอ้อม เนื่องจากการลักลอบนำเข้าชิ้นส่วนสุกรราคาถูกมาแย่งตลาดจะทำให้เกษตรกรท้อแท้ ล้มเลิกอาชีพหายไป และการกลับมาเลี้ยงใหม่ทำได้ยาก ทำให้ประชาชนเสี่ยงต่อการบริโภคสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ
สำหรับการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 เจ้าหน้าที่จึงอายัดของกลางทั้งหมดเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย รวมถึงเก็บตัวอย่างซากสัตว์แช่แข็ง เพื่อทำการตรวจสอบวิเคราะห์หาเชื้อ ASF และสารเร่งเนื้อแดง เพื่อตรวจสอบคุณภาพสินค้ายังห้องปฏิบัติการต่อไป
หากประชาชนต้องการแจ้งเบาะแสหรือข้อมูลเพิ่มเติม สามารถแจ้งได้ที่แอปพลิเคชัน DLD 4.0 หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ 06 3225 6888 ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย