นครศรีธรรมราช 12 พ.ย. – “จุรินทร์” ควง “นิพนธ์” ลุยนครศรีฯ เปิดตัว 8 ผู้สมัคร ส.ส. เปรียบ 76 ปี ประชาธิปัตย์มีแก่น มีรากแก้วอุดมการณ์ จิตวิญญาณรับใช้ประชาชนเป็นที่ตั้ง ด้าน นิพนธ์ เย้ยพวกกระโดดน้ำหนี ไปไม่ถึงฝั่งสักราย วอนชาวประชาธิปัตย์อย่าหวั่นไหว ยันปรากฏการณ์อดีตรุนแรงกว่าปัจจุบันมาก แต่ ปชป. ก็ยังอยู่มาได้
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ก่อนเข้าร่วมประชุมกับสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ที่ หอประชุมเมืองนครศรีธรรมราช ทุ่งท่าลาด ถึงการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดนครศรีธรรมราชว่า วันนี้จะได้เปิดตัวผู้สมัครใน 8 เขตก่อน แม้ความจริงตั้งใจจะเปิดตัวทั้ง 9 เขต แต่เกิดอุบัติเหตุอย่างที่ทราบกัน ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง และยังจะเปิดตัวไปก่อน 8 เขต ส่วนอีกเขตนั้นก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ขณะนี้มีผู้เสนอตัวพร้อมที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตที่แกว่งไป ไม่ได้มีปัญหาอะไร พรรคก็พร้อมจะส่งครบทุกเขตในนครศรีธรรมราช ไม่ได้มีความกังวลอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้สมัคร ส.ส. ที่จะมาลงแทนนั้น มีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ขอยังไม่พูดถึงในตอนนี้ และให้เป็นหน้าที่ของรองหัวหน้าพรรคภาคใต้ ซึ่งจะเป็นผู้ไปดำเนินการมา แต่ตามที่ได้รับแจ้ง ก็มีผู้เสนอตัวมาแล้วหลายคน ขอให้เป็นเรื่องภายใน เมื่อถึงเวลาพรรคจะได้พิจารณาตัดสินใจ ไม่มีอะไรยาก และจะเป็นคนที่พรรคจะต้องพิจารณาในเรื่องอุดมการณ์
“ผมก็มั่นใจสำหรับคนใหม่ที่จะมีอุดมการณ์ประชาธิปัตย์เต็มร้อย เหมือนท่านชวน หลีกภัย ท่านบัญญัติ เหมือนผม ที่เป็นผู้แทนมา 11 สมัย ไม่เคยเปลี่ยนพรรค ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ เพราะฉะนั้นผมมั่นใจว่าคนใหม่ที่จะเข้ามา สามารถที่จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับพี่น้องชาวนครศรีธรรมราชได้อีกคนหนึ่ง” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
พร้อมกับตอบคำถามสื่อมวลชน ที่ถามว่าการที่ผู้สมัครย้ายพรรคในช่วงนี้ จะส่งผลกระทบต่อจำนวน ส.ส.เป้าหมายของพรรคหรือไม่นั้นว่า อาจจะมีนิดหน่อย แต่ไม่กระทบในภาพรวม เพราะมีคนใหม่ที่เดินเข้ามาเป็นจำนวนมาก และมีโอกาสที่จะได้รับเลือกตั้งด้วย เพราะฉะนั้นภาพรวมเที่ยวหน้า พรรคก็ยังมั่นใจ ทั้งตนและเลขาธิการพรรค กรรมการบริหารพรรค ทุกคนคิดตรงกันว่าเราต้องได้มากกว่าเดิมแน่นอน ส่วนเกิดประเด็นปัญหาในเขตไหนอย่างไรนั้น ก็ต้องแก้ปัญหากันไป และการย้ายพรรค มันก็มีทุกพรรค เหมือนที่ตนเคยทายไว้ว่า พอใกล้เลือกตั้งไม่มีพรรคไหนหรอกที่ไม่มีคนเข้าคนออก ประชาธิปัตย์ก็เหมือนกัน
“สิ่งหนึ่งที่มีคนถามผมเหมือนกันว่า ประชาธิปัตย์ อยู่มาได้ 76 ปี ในอดีตมีทั้งคนเข้าก็เยอะ คนเดินออกก็มี แต่ทำไมถึงอยู่ยั้งยืนยงมาได้ ผมก็เคยตอบไปว่าที่ประชาธิปัตย์อยู่ยั้งยืนยงมาได้ 76 ปี และจะก้าวต่อไปนั้น ก็เพราะว่าประชาธิปัตย์ยังมีแก่น ที่หลุดร่วงไปบ้างก็เป็นเรื่องปกติ อาจจะเป็นเปลือก เป็นใบ ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องมีหลุดร่วงออกไปบ้าง แต่ว่าต้น รากแก้วของความเป็นประชาธิปัตย์ ของอุดมการณ์ และจิตวิญญาณของการรับใช้ประชาชนที่ตั้งใจเดินหน้าให้ประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมืองยังอยู่ เพราะฉะนั้น ต้นไม้ประชาธิปัตย์จึงยังสามารถแผ่กิ่งก้านสาขา ผลิดอกออกใบมาได้ตลอดระยะเวลา 76 ปี เพื่อรับใช้ประชาชน” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
และเพิ่มเติมอีกด้วยว่า นี่คือประสบการณ์ที่เราได้ประสบมา แล้วก็ไม่ได้หวั่นไหว ทุกคนจึงพร้อมกันเดินหน้าต่อไป ทุกคนยังเหนียวแน่นอยู่กับพรรค ตัวเลขสมาชิกพรรควันนี้ ประชาธิปัตย์ยังมีสมาชิกมากที่สุดที่เป็นทางการเป็นลำดับ 1 ของประเทศ 1 แสน 1 หมื่นคน และช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ก็มีสมาชิกใหม่เข้ามาถึง 4 หมื่นกว่าคน ในช่วง 3 ปี เพราะฉะนั้นมันไม่ได้มีปัญหาอะไร เราก็ผนึกกำลังคนที่ยังเป็นแก่น เป็นต้น เป็นรากแก้วของประชาธิปัตย์ขับเคลื่อนต่อไป ผมยังมั่นใจว่าประชาชนเข้าใจเรา แล้วก็พร้อมที่จะเดินเคียงข้างไปกับเรา
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคจำเป็นต้องกลับไปทบทวนหาสาเหตุของปัญหาก่อนหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า อย่างน้อยต้องไปถามคนเป็นเบื้องต้นก่อน คนจะต้องเป็นคนตอบคำถามว่า เพราะอะไร ทำไม หลายคนพรรคก็ให้ทุกอย่างเท่าที่พรรคจะให้ได้ อย่างน้อยก็โอกาส สถานภาพในการทำหน้าที่ การให้จิตวิญญาณให้อนาคตในการรับใช้ประชาชน เราก็ให้เต็มที่ทุกคน และประชาธิปัตย์ก็ให้ความสำคัญกับทุกคน แต่ว่าแต่ละคนอาจจะต่างจิตต่างใจ ก็ต้องให้คนเป็นคนตอบเสียก่อนว่า เพราะเหตุอะไรอย่างไร หรือถ้าจะไม่ตอบ ก็คือไม่ตอบ แต่พรรคก็เข้าใจดี ในสถานการณ์อย่างนี้ พอจะเลือกตั้งมันมีทั้งคนเข้า คนออกเสมอ ทุกพรรคการเมือง บางครั้งบางพื้นที่เราส่งผู้สมัครได้คนเดียวในนามพรรค แต่มี 2-3 คนที่พรรคตัดสินใจว่าไม่สามารถส่งเขาได้ ถ้าเขาจะเป็นผู้แทน หรือเขาจะลงสมัคร ก็ต้องย้ายพรรค เราก็เข้าใจได้ หรือว่าเงื่อนไขอื่นๆ เช่น ขอ 1-2-3-4-5 แล้วเราไม่สามารถสนองตอบให้ได้ เพราะประชาธิปัตย์ก็ต้องคำนึงถึงภาพรวมของพรรค บางทีมันก็อาจจะทำให้ต้องเปลี่ยนพรรคไป ตนก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร พรรคก็ต้องเดินหน้าต่อไปอย่างหนักแน่น มั่นคง
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่เลขาธิการพรรค ประกาศว่าต่อไปนี้จะเลือกเกรงใจพรรคการเมืองที่มาดูด ส.ส. หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คิดเช่นเดียวกันหรือไม่ เรื่องนี้นายจุรินทร์ ตอบว่า ท่านเลขาธิการพรรคพูดไปแล้ว ชัดเจนแล้ว ความคิดของท่านเลขา ก็คือความเห็นของพรรค ท่านเลขา เป็นพี่ใหญ่ของพรรค พวกเรายอมรับ หัวหน้าพรรคก็เหมือนกัน เพราะฉะนั้นความเห็นหัวหน้า ความเห็นเลขา ถือเป็นความเห็นพรรค
ผู้สื่อข่าวถามยังถามถึงการที่อดีตหัวหน้าพรรค นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไปรับประทานอาหารร่วมกับหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ เรื่องนัยยะ หรือเรื่องอะไร คงต้องไปถามท่าน แต่ไม่อยากให้เป็นข่าวว่าจุรินทร์ให้ไปถามอภิสิทธิ์ แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถาม ตนก็ไม่อยู่ในฐานะที่จะไปตอบแทนท่านได้ เราก็ต้องเดินหน้าของเราต่อไป
“ทั้งผม ทั้งเลขาธิการพรรค กรรมการบริหาร ส.ส. ทุกคน สมาชิกทุกคนที่ยังมั่นคงเหนียวแน่นอยู่กับอุดมการณ์ประชาธิปัตย์ เราไม่หวั่นไหว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ส่วนกรณีนี้ผมตอบไม่ได้ เพราะเราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ และไม่ทราบที่มาที่ไป” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ด้านนิพนธ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะ ผอ.เลือกตั้งฯ เปิดเผย ถึงกระแสข่าวที่มีการลาออกของสมาชิกพรรคฯในช่วงนี้ว่า ขอให้พี่น้องชาวประชาธิปัตย์อย่าได้หวั่นไหวกับกระแสข่าวที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าว เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นมาตลอดของการดำรงอยู่ของพรรคตลอด 77 ปี และที่ผ่านมามีอดีตเลขาธิการพรรคถึง 4 คน ออกไปตั้งพรรคเองแต่ไม่มีใครไปรอดสักราย เปรียบเสมือนคนที่นั่งอยู่บนเรือเห็นคลื่นลมมาก็กระโดดเรือว่ายน้ำหนีแต่ก็ไปไม่ถึงฝั่งสักราย ขอยืนยันว่าเหตุการณ์ในอดีตรุนแรงกว่าปัจจุบันมาก แต่ ปชป. ก็ยังอยู่มาได้ ดังนั้น ขอวอนไปยังชาวประชาธิปัตย์ว่าขอให้เชื่อมั่นการเดินหน้าทำงานเพื่อประชาชนของพรรคว่าจะสามารถนำไปสู่ความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่พี่น้องประชาชนได้อย่างแน่นอน .-สำนักข่าวไทย