16 องค์กรบุกก. เกษตรฯ ยื่นทบทวนคำสั่งย้าย “ชลธี”

กรุงเทพฯ 2 พ.ย.- สมาคมเกษตรกรและผู้ประกอบการทุเรียนรวม 16 องค์กรบุกกระทรวงเกษตรฯยื่นหนังสือขอให้ทบทวนคำสั่งย้าย “ชลธี นุ่มหนู” ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 ฉายา “มือปราบทุเรียนอ่อน” โดยระบุว่า ไม่เป็นธรรม ด้าน “ชลธี” เผยยื่นใบลาออกแล้ว โดยจะมีผล 1 ธ.ค. นี้


นายวุฒิชัย คุณเจตน์ นายกสมาคมทุเรียนไทย พร้อมด้วยตัวแทนองค์กรที่เกี่ยวข้องกับชาวสวนทุเรียนและผู้ประกอบการส่งออกทุเรียนรวม 16 องค์กร ประกอบด้วย

1. สมาคมทุเรียนไทย


2. สมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทยภาคตะวันออก

3. สมาคมชาวสวนลำไยจันทบุรี

4. กลุ่มลุ่มน้ำวังโตนด


5. สมาคมผู้ค้าและส่งออกลำไยภาคตะวันออก

6. สมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดน ไทย-กัมพูชา

7. สมาคมผู้ผลิตทุเรียนไทย

8. สมาคมชาวสวนผลไม้จังหวัดชุมพร

9. หอการค้าจังหวัดจันทบุรี

10. สมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ไทย

11. สถาบันทุเรียนไทย

12. วิสาหกิจชาวสวนทุเรียนจันท์

13. สภาเกษตรจังหวัดจันทบุรี

14. กลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียนจันทบุรี

15. สมาคมการค้าธุรกิจเกษตรไทย-จีน

16. สมาคมทุเรียนใต้ 

ทั้งหมดเดินทางมายังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อยื่นหนังสือให้ทบทวนการโยกย้ายนายชลธี นุ่มหนู  ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 กรมวิชาการเกษตร

นายกสมาคมทุเรียนไทยเปิดเผยว่า การหนังสือทบทวนการโยกย้ายผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 ครั้งนี้ เพื่อขอความเห็นใจจากนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางสาว มนัญญาไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงนาย ระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเนื่องจากเกษตรกรชาวสวนทุเรียนและผู้ประกอบการส่งออกทุเรียนภาคตะวันออกต้องการให้ทบทวนคำสั่งย้ายดังกล่าว โดยชะลอออกไปก่อน เพื่อให้นายชลธีได้ทำงานเพื่อช่วยชาวสวนทุเรียนในการทำเรื่องต่างๆ ให้เรียบร้อยเช่นการทำใบรับรอง GAP ที่ยังคงค้างกว่า 80,000 ใบ การจัดการปัญหาทุเรียนอ่อนที่กำลังทำให้คุณภาพของทุเรียนไทยไทยได้รับการชื่นชมจากผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ เพราะจากการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งที่มีผลทำให้ปัจจุบันทุเรียนเกิดขึ้นใหม่ในหลายพื้นที่ของประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น โดยปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพเป็นปัญหาใหญ่มากที่ต้องตรวจจับและแก้ไข จนกว่าจะมีกฎหมายที่มีประสิทธิภาพและผู้บังคับใช้กฎหมายที่เด็ดขาดมากำกับดูแลแก้ไขเพื่อความยั่งยืนของภาคเกษตรไทยและรักษาพืชเศรษฐกิจของไทยที่สร้างมูลค่าให้กับประเทศไทย

นอกจากนี้ ยังมีคู่แข่งอย่างเวียดนามที่ได้รับอนุญาตให้ส่งทุเรียนเข้าประเทศจีนได้อีกหนึ่งประเทศ ทำให้ชาวสวนทุเรียนไทยได้รับผลกระทบโดยตรง จึงต้องมีข้าราชการที่เข้าใจปัญหาและเข้ามาฃ

นอกจากนี้ประเทศไทยยังพบปัญหาการตรวจพบทุเรียนด้อยคุณภาพส่งออกไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นปัญหาสืบเนื่องมาไม่ต่ำกว่า 30 ปี ที่เป็นปัญหาใหญ่ที่ทำลายตลาดทุเรียนไทย และปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายควบคุมคุณภาพทุเรียนบังคับใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพได้อย่างเป็นรูปธรรมโดยสาธารรัฐประชาชนจีนมีความต้องการทุเรียนแก่จัดและมีคุณภาพสูง ปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบทำให้ราคาทุเรียนไม่เสถียร ความน่าเชื่อถือ ความมั่นใจของผู้บริโภคคนจีนลดลง และอาจมีการลดการนำเข้าในอนาคตหากมีประเทศทางเลือกที่ดีกว่าด้วย

สำหรับในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตทุเรียนภาคตะวันออกในปี 2563 ได้มีการตรวจพบปัญหาทุเรียนอ่อนมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงการเก็บเกี่ยวทุเรียนในภาคตะวันออกในปี พ.ศ.2564 นายชลธี ถือเป็นคนริเริ่มก่อตั้งชุดปฏิบัติการ“ทีมเล็บเหยี่ยว” เพื่อตรวจจับแก้ปัญหาทุเรียนอ่อน ทุเรียนด้อยคุณภาพ ทีมเล็บเหยี่ยวทำงานอย่างจริงจังรวมทั้งดำเนินการด้านมาตรฐาน GAP ในส่วนของผลไม้เพื่อการส่งออก ทุเรียน ลำไย มังคุด ฯลฯ ของภาคตะวันออกสามารถส่งขายได้อย่างราบรื่นและมีส่วนในการผลักดันเรื่องการกำหนดมาตรฐาน GMP Plus และ GAP Plus เพื่อยกระดับมาตรฐานการจัดการผลไม้ที่ปลอดจากการปนเปื้อนเชื้อโควิด-19 โดยตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา พบทุเรียนด้อยคุณภาพน้อยลงอย่างมีนัยยะสำคัญด้วย

ท่ามกลางสถานการณ์การแข่งขันของตลาดการส่งออกทุเรียนไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนปัจจุบันเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) ได้ประกาศลงวันที่ 27 กรกฎาคม2565 อนุญาตให้ประเทศเวียดนาม ส่งทุเรียนผลสดเข้าจีนได้เป็นประเทศที่ 2 ซึ่งประเทศเวียดนามถือเป็นประเทศที่เป็นคู่แข่งทางการค้ากับประเทศไทยที่มีข้อได้เปรียบสูง เนื่องจากประเทศเวียดนามมีพรมแดนติดสาธารณรัฐประชาชนจีน ทำให้ระยะทางขนส่งใกล้กว่าประเทศไทย สามารถตัดทุเรียนแก่ที่มีคุณภาพรสชาติได้ดีกว่าของประเทศไทย และทำให้ราคาถูกกว่าประเทศไทย แม้แต่สาธารณรัฐประชาชนจีนได้พัฒนาการปลูกทุเรียนในพื้นที่ ดังนั้นการโยกย้ายข้าราชการที่เข้าใจปัญหาและพร้อมช่วยเหลือเกษตรกรในห้วงนี้ ถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม

ดังนี้นจึงหวังว่า ผู้มีอำนาจจะเมตตาและเข้าใจผลกระทบของการโยกย้ายนายชลธี เนื่องจากจะเกิดผลกระทบใหญ่หลวงกับวงการทุเรียนไทยที่สร้างรายได้ให้ประเทศกว่าปีละ 100,000 ล้านบาท

ด้านนายชลธีกล่าวว่า ได้ยื่นหนังสือลาออกจากราชการตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. เนื่องจากต้องการปกป้องศักดิ์ศรีของข้าราชการ โดยจะมีผลในวันที่ 1 ธ.ค. นี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สั่งย้ายครูแบทแมน

สั่งเด้ง “ครูแบทแมน” ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน

กัน จอมพลัง บุก ก.ศึกษาธิการ ร้องเอาผิดครูชายสวมหน้ากากแบทแมน ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน จ.อุทัยธานี ล่าสุดสั่งย้าย “ผอ.โรงเรียน-ครูแบทแมน” เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ด้าน “สส.ชาดา-กัน จอมพลัง” ลงพื้นที่ ขีดเส้นตายสอบเอาผิด

แม่อดีตครูสาว ยังติดใจสาเหตุ หลังพบศพในรถลานจอด รพ.

“น้องกิ๊ฟ” อดีตครูหายตัวไปเกือบ 1 เดือน พบอีกทีเป็นร่างไร้วิญญาณในรถยนต์บนลานจอดของโรงพยาบาล ญาติยังติดใจสาเหตุวอนตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด ไขข้อสงสัย

สั่งจำคุก “อัจฉริยะ” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา คดีละเมิดอำนาจศาล

ศาลอาญาสั่งจำคุก “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา ฐานละเมิดอำนาจศาล เผยแพร่เอกสารสรุปย่อคำพิพากษาต่อสื่อมวลชนโดยไม่ได้รับอนุญาต

ข่าวแนะนำ

ซักฟอกนายกฯ

ฝ่ายค้านล็อกเป้าซักฟอก “นายกฯ แพทองธาร” คนเดียว

ฝ่ายค้านโฟกัสล็อกเป้า ซักฟอก “นายกฯ แพทองธาร” เพียงคนเดียว ไร้ภาวะผู้นำ ปล่อยให้ “บิดา” ชักใย-จูงใจ มีส่วนช่วยบริหารราชการแผ่นดิน บอกพูดถึง “ทักษิณ” ได้แน่ เบรกดราม่า “ฝ่ายค้าน” ดีล “พรรคร่วมรัฐบาล” แลกข้อมูล ขอรอดูความเข้มข้นเนื้อหาวันอภิปราย แย้มมีหลักฐานคอร์รัปชัน อย่าปรามาส ในอดีตอภิปรายนายกฯ คนเดียว เคยถึงขั้นยุบสภามาแล้ว

ซักฟอกนายกฯ

นายกฯ ไม่หวั่นถูกล็อกเป้าซักฟอก เชื่อพรรคร่วมไม่ลอยแพ

นายกฯ เข้าสภา บอกไม่ได้บังเอิญตรงวันฝ่ายค้านยื่นซักฟอก แต่จิ้มวันตั้งแต่ปีใหม่ ชี้ ไม่เกินคาดหมายหลังเป็นเป้าถูกอภิปรายคนเดียว ไม่กังวลกล่าวหาเป็นนั่งร้าน “ทักษิณ” มั่นใจ ไม่ได้ทำอะไรผิด พร้อมแจงทุกเรื่องแต่ไม่รู้จะถูกใจคำตอบหรือไม่ เชื่อพรรคร่วมไม่ลอยแพ ส่งข้อความขอความช่วยเหลือแล้ว ชี้ มือใหม่ตอบคนเดียวไม่ไหวเดี๋ยวคอแห้ง ต้องมีองครักษ์ช่วย

อุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิสูงขึ้น-ใต้ฝนลดลง

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิสูงขึ้น แต่ยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้าบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ส่วนภาคใต้มีฝนลดลง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย

เคลื่อน 18 ศพเหยื่อบัสมรณะ ถึงบ้านเกิด ญาติร่ำไห้อาลัย

เจ้าหน้าที่กู้ภัยเคลื่อนร่างผู้เสียชีวิต 18 ราย จากเหตุรถบัสพลิกคว่ำ ถึงวัดป่าวิเวกธรรมคุณ อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของญาติที่รอรับศพ