รัฐสภา 27 เม.ย.- สปท.เตรียมถกร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรม และมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน 1 พ.ค.นี้ กำหนดให้มีสภาวิชาชีพสื่อมวลชนแห่งชาติ เป็นองค์กรกลางกำกับดูแลกันเอง
นายคำนูณ สิทธิสมาน เลขานุการและโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (วิป สปท.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ ที่ประชุม สปท.จะพิจารณารายงานการปฏิรูปของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการสื่อสารมวลชน เรื่อง การปฏิรูปสื่อสารมวลชน ร่างพระราชบัญญัติการคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรม และมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. …. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนได้ทำหน้าที่ตามมาตรฐานวิชาชีพและมีจริยธรรม มีสิทธิเสรีภาพบนความรับผิดชอบต่อสังคมภายใต้การกำกับดูแลกันเอง โดยมีสภาวิชาชีพสื่อมวลชนแห่งชาติ เป็นองค์กรกลางในการกำกับดูแลกันเอง และเพื่อให้ประชาชนได้รับความคุ้มครองจากการประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนและบริโภคสื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน เป็นการทำให้กลไกภาครัฐมีบทบาทมากขึ้นในการสนับสนุน เพื่อให้เกิดการกำกับดูแลกันเองตามลำดับขั้น
นายคำนูณ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ที่ประชุม สปท.จะพิจารณาร่างพระราชบัญญัติจดแจ้งการพิมพ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. เพื่อปรับปรุงให้กระทรวงวัฒนธรรมสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และให้สอดคล้องกับร่างพระราชบัญญัติการคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรม และมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. …. โดยเฉพาะการกำหนดหลักเกณฑ์การปฏิบัติของหนังสือพิมพ์ภายหลังการจดแจ้ง จะต้องจดแจ้งเป็นองค์กรสื่อมวลชน การกำหนดเวลาการตีพิมพ์หนังสือภายใน 60 วัน หากไม่ดำเนินการ หรือไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ให้ถือว่าการจดแจ้งเป็นอันสิ้นผล และหากไม่ตีพิมพ์หรือออกหนังสือพิมพ์ต่อเนื่องกันเกินกว่ากำหนดเวลา 1 ปี ให้ถือว่าการจดแจ้งสิ้นสุดลง
นายคำนูณ กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกัน ที่ประชุม สปท.จะพิจารณารายงานการปฏิรูป เรื่องผลการศึกษาและข้อเสนอแนะด้านยุทธศาสตร์และแนวทางการขับเคลื่อนการปฏิรูปการใช้สื่ออย่างสร้างสรรค์ ซึ่งคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการสื่อสารมวลชน เสนอให้ตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการใช้สื่ออย่างสร้างสรรค์ เพื่อเป็นกลไกในการจัดการสื่อออนไลน์เชิงบวกและสร้างสรรค์ พร้อมสร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและการตรวจสอบให้มีประสิทธิภาพ ส่วนในวันที่ 2 พฤษภาคม ที่ประชุม สปท.จะพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน เรื่อง การถ่ายโอนภารกิจภาครัฐ การถ่ายโอนภารกิจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ และรายงานของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านสังคม เรื่องการส่งเสริมการจ้างแรงงานผู้สูงอายุ
นายคำนูณ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ในที่ประชุมวิป สปท.วันนี้ (27 เม.ย.) ได้มีการหารือ 2 ประเด็น คือ องค์ประกอบของสภาวิชาชีพสื่อมวลชนแห่งชาติ และการกำหนดให้ผู้ประกอบวิชาชีพต้องมีใบอนุญาตจากสภาวิชาชีพ.-สำนักข่าวไทย