ป.ป.ช. 26 ต.ค.- ป.ป.ช.ชี้มูล 2 ผู้บริหาร อปท. ร่ำรวยผิดปกติ “นายกเทศมนตรีแม่ตืน” รวย 23 ล้าน เอาผิดอาญาพ่วงวินัย ด้าน “นายก อบต.หนองขาม” ซุกทรัพย์สิน 119 ล้านบาท
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดกรณีร่ำรวยผิดปกติ 4 เรื่อง คือ
1.กรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายอรรถพงษ์ แซ่แต้ นายกเทศมนตรี ต.แม่ตืน อ.ลี้ จ.ลำพูน ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ จำนวน 18 รายการ เช่น รถยนต์นั่งส่วนบุคคล เงินลงทุนร้านกาแฟ สลากออมทรัพย์ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร บ้านเดี่ยวชั้นเดียวพร้อมที่ดิน เงินฝาก ที่ดิน โรงเรือนพร้อมสิ่งปลูกสร้าง เงินผลกำไรจากการประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้างและรถแทร็กเตอร์ (แบคโฮ) เป็นต้น รวมมูลค่า 23,843,992.45 บาท
โดย ป.ป.ช.ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติ ตกเป็นของแผ่นดิน และให้ส่งคำวินิจฉัยพร้อมด้วยข้อเท็จจริงโดยสรุปไปยังผู้มีอำนาจสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง ภายใน 60 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งและให้ถือว่ากระทำการทุจริตต่อหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 122 วรรคหนึ่ง และวรรคห้าต่อไป
2.กรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายสมหมาย จันทร์ฉาย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ร่ำรวยผิดปกติ รวมมูลค่าทรัพย์สิน 119,327,444.22 บาท โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ จำนวน 49 รายการ แบ่งเป็นรถยนต์ จำนวน 28 รายการ รถจักรยานยนต์ จำนวน 18 รายการ และอากาศยานเบาพิเศษ จำนวน 3 รายการ และทรัพย์สินซึ่งอยู่ในชื่อของภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส จำนวน 9 รายการ มีมูลค่าสูงกว่าสินทรัพย์และกำไรสุทธิที่บริษัท เมืองหนองเลง จำกัด ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล (ภ.ง.ด. 50) อีกทั้ง บริษัท เมืองหนองเลง จำกัด ไม่ได้กำหนดให้มีการจ่ายเงินเดือนหรือค่าตอบแทนอื่นใดแก่ภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส กรรมการบริษัท ภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส จึงมีพฤติการณ์ถือครองทรัพย์สินทั้ง 9 รายการ เช่น รถยนต์ จำนวน 7 รายการ รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 รายการ แทนผู้ถูกกล่าวหา รวมมูลค่าทรัพย์สิน 119,327,444.22 บาท
3.กรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายประจวบ ธรณี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายช่างโยธา ระดับชำนาญงาน ส่วนพัฒนาและฟื้นฟูแหล่งน้ำ สำนักทรัพยากรน้ำ ภาค 4 จังหวัดขอนแก่น และนางเกษแก้ว ธรณี คู่สมรส มีพฤติการณ์เกี่ยวกับกระแสเงินไหลเวียนผิดปกติ โดยมีรายการฝากเงินเข้าบัญชีธนาคาร และถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากธนาคารเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง เกินกว่ารายได้ในแต่ละเดือนที่จะพึงมีได้ รวมรายการฝากเงินทั้งสิ้น 296 รายการ รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 254,973,876.14 บาท และยังพบว่า มีการซื้อที่ดิน หรือที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง เป็นจำนวนมาก รวม 17 แปลง และมีการซื้อยานพาหนะในราคาที่สูง และเป็นการซื้อด้วยเงินสด หรือชำระเงินดาวน์ด้วยเงินสดเป็นจำนวนเงินที่สูง นอกจากนี้หนี้สินที่คู่สมรสได้ทำสัญญากู้เงินจากธนาคาร มีการชำระหนี้โดยการชำระเงินเป็นจำนวนที่สูง
4.กรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายทรงศักดิ์ สุทัศน์ ณ อยุธยา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ ฝ่ายปฏิบัติการและซ่อมบำรุง สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ จำนวน 1 รายการ ได้แก่ ที่ดินไม่มีสิ่งปลูกสร้าง เนื้อที่ 1 งาน 61 ตารางวา ตำบลหางดง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ราคา 900,000 บาท และมีหนี้สินลดลงผิดปกติ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 2,397,516.50 บาท จำนวน 3 รายการ
โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติ ตกเป็นของแผ่นดิน และแจ้งคำวินิจฉัย พร้อมด้วยข้อเท็จจริงโดยสรุปไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อสั่งลงโทษไล่ออกผู้ถูกกล่าวหาภายใน 60 วัน โดยให้ถือว่ากระทำการทุจริตต่อหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 122 วรรคหนึ่ง และวรรคสาม ต่อไป.-สำนักข่าวไทย