อุบลราชธานี 10 ต.ค.- กรมชลประทานคาดการณ์ว่า ระดับน้ำลำน้ำมูล จ.อุบลราชธานี จะสูงสุดวันพรุ่งนี้ โดยสูงกว่าตลิ่ง 4.50 เมตร แล้วจะเริ่มลดลงตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค.เป็นต้นไป ขณะนี้ยังระบายออกแม่น้ำโขงได้ดี อาศัยจังหวะระดับน้ำแม่น้ำโขงลด เร่งระบายรองรับน้ำที่ระบายจากเขื่อนอุบลรัตน์ที่จะมาถึงจ.อุบลราชธานี ในอีก 10-15 วัน
สำนักงานชลประทานที่ 7 กรมชลประทานรายงานสถานการณ์น้ำในลำน้ำมูลว่า แม้จะสูงขึ้น แต่อัตราการเพิ่มสูงจะลดลงตามลำดับ กรมชลประทานคาดการณ์ว่า ระดับน้ำที่สถานีวัด M.7 ในเขตเมืองอุบลราชธานีจะสูงสุดในวันพรุ่งนี้ (11 ต.ค.) ที่ระดับ 116.50 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลางซึ่งสูงกว่าตลิ่ง 4.50 เมตร จากนั้นจะเริ่มลดลงในวันที่ 13 ต.ค.
ปัจจุบันระดับน้ำแม่น้ำโขงมีระดับต่ำลง จึงอาศัยจังหวะนี้เร่งระบายน้ำลำน้ำมูลออกสู่แม่น้ำโขง เพื่อรับน้ำที่ระบายจากเขื่อนอุบลรัตน์ที่จะไหลมาถึงในอีก 10-15 วัน โดยปัจจุบันระบายได้วันละ 600 ลบ.ม. เมื่อน้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์ไหลมา จะไม่ทำให้มีผลกระทบเพิ่มขึ้น

สำหรับสถานการณ์ล่าสุด (10 ต.ค.) ปริมาณน้ำในลำน้ำสาขาของแม่น้ำมูลเริ่มลดลง ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำมูล บริเวณพื้นที่ตอนบนในเขต อ.โชคชัย อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มที่จะลดลงเช่นกันยกเว้นที่ อ.พิมายที่มีระดับน้ำเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนที่ อ.คูเมือง และ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ระดับน้ำลดลงจากวันก่อนเล็กน้อย แต่ยังคงสูงกว่าตลิ่งอยู่ประมาณ 90 เซนติเมตร ส่วนในเขต อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ อ.ราษีไศล และ อ.กันทรารมย์จ.ศรีสะเกษ ระดับยังคงเพิ่มขึ้น เนื่องจากยังมีน้ำจากพื้นที่ตอนบนไหลลงไปสมทบ แต่เพิ่มขึ้นในอัตราที่น้อยลง และยังมีน้ำสูงกว่าตลิ่งอยู่ประมาณ 1.40-3.80 เมตร
ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) ระบุว่า ฝนที่ตกต่อเนื่อง ประกอบกับอิทธิพลของพายุ “โนรู” ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลลงสู่แม่มูลและลำน้ำสาขาเป็นจำนวนมาก หากนับเป็นสถิติพบว่า ปริมาณน้ำฤดูฝนปีนี้ มากที่สุดในรอบ 25 ปีโดยปริมาณน้ำได้ไหลสะสมมาตั้งแต่บริเวณต้นน้ำมูลในเขตจังหวัดนครราชสีมา ไหลผ่านจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ศรีสะเกษ และไปรวมกับแม่น้ำชีที่อำเภอเมืองอุบลราชธานี ก่อนที่จะไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ตามลำดับ
ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้เร่งระบายน้ำในแม่น้ำมูลลงสู่แม่น้ำโขงมาอย่างต่อเนื่อง โดยการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ และเครื่องสูบน้ำระบบไฮโดรโฟล(Hydroflow) เพื่อเร่งระบายน้ำในแม่น้ำมูลลงสู่แม่น้ำโขงให้เร็วขึ้น ปัจจุบันได้ทยอยถอนเครื่องผลักดันน้ำและเครื่องสูบน้ำออกจากแม่น้ำมูลแล้ว เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่ปากมูล ต่ำกว่าระดับน้ำในแม่น้ำมูลค่อนข้างมาก ทำให้การระบายน้ำเป็นไปด้วยดี จึงขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากกรมชลประทานอย่างใกล้ชิด จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ.-สำนักข่าวไทย