ชัยนาท 3 ต.ค.- กอนช. ประสานกรมชลประทานแบ่งรับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเข้า 10 ทุ่งลุ่มต่ำเพื่อลดปริมาณน้ำที่จะไหลสู่พื้นที่เจ้าพระยาตอนล่าง ย้ำให้แบ่งน้ำเข้าทุ่งในปริมาณที่เหมาะสมและเกิดผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด
นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคกลาง กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวว่า ได้ประสานกรมชลประทานให้การรับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าสู่ทุ่งลุ่มต่ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา 10 ทุ่งซึ่งเตรียมไว้เป็นพื้นที่รับน้ำได้แก่ทุ่งพระพิมล ทุ่งพระยาบรรลือ ทุ่งเจ้าเจ็ด ทุ่งผักไห่ ทุ่งป่าโมก ทุ่งบางกุ้ง ทุ่งบางกุ่ม ทุ่งท่าวุ้ง ทุ่งฝั่งซ้ายคลองชัยนาท-ป่าสัก และทุ่งเชียงราก ความจุรวมประมาณ 1300 ล้าน ลบ.ม. โดยขณะนี้ พื้นที่เกษตรส่วนใหญ่เก็บเกี่ยวหมดแล้วเหลือที่รอการเก็บเกี่ยวเล็กน้อยเท่านั้น
กอนช. คาดการณ์ว่า ปริมาณน้ำเหนือสูงสุดจะไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ช่วงสัปดาห์ที่ 1-2 ของเดือนตุลาคม ตามแผนบริหารจัดการน้ำที่วางไว้ในการลดผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาด้านท้าย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งได้กำหนดเกณฑ์ควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้อยู่ในเกณฑ์ 3,000 ลบ.ม./วินาที (จากเดิม 3,500 ลบ.ม./วินาที) โดยหากมีปริมาณน้ำที่จะไหลไปถึงบางไทรเกิน จะพิจารณาแบ่งน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าทุ่งพื้นที่ลุ่มต่ำ 10 ทุ่ง ซึ่งวันนี้ปริมาณน้ำไหลผ่านอำเภอบางไทร 3,156 ลบ.ม./วินาที จากการคาดการณ์อาจมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นถึงประมาณ 3,200 – 3,400 ลบ.ม./วินาที ดังนั้น จึงเป็นห้วงเวลาที่เหมาะสมที่จะเริ่มรับน้ำเข้าทุ่งเพื่อตัดยอดน้ำเหนือ โดยเป็นการทยอยรับเข้าซึ่งปริมาณน้ำที่รับเข้านั้นจะพิจารณาจากสถานการณ์ฝนและปริมาณน้ำในแต่ละพื้นที่ร่วมด้วย
ตามมาตรการที่กอนช. กำหนดไว้ ก่อนการผันน้ำเข้าทุ่ง จะต้องจัดทำกระบวนการมีส่วนร่วมกับประชาชนในพื้นที่ก่อนพื้นที่ทุ่งที่ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นในพื้นที่แล้วมี 4 ทุ่ง ได้แก่ ทุ่งเจ้าเจ็ด ทุ่งโพธิ์พระยา ทุ่งป่าโมก และทุ่งผักไห่รวมถึงได้นำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดด้วยเนื่องจากจังหวัดจะต้องออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในทุ่งล่วงหน้า 3 วันก่อนการรับน้ำเข้าทุ่ง
นอกจากนี้ ยังได้ทำหนังสือถึงกรมชลประทานเพื่อขอให้กรมชลประทานพิจารณารับน้ำเข้าทุ่งลุ่มต่ำลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างในอัตราที่เหมาะสม เมื่อนำน้ำเข้าทุ่งแล้วกรุณาติดตามสถานการณ์น้ำในทุ่งเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ รวมถึงต้องแจ้งผลการติดตามสถานการณ์ ให้ศูนย์อำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคกลางทุกวันเพื่อประเมินสถานการณ์และปรับปรุงมาตรการต่างๆ ตามความเหมาะสมต่อไป.-สำนักข่าวไทย
