กรุงเทพฯ 27 ก.ย. -ไทยเบฟฯ ไม่หวั่นปัญหา “บาทอ่อน” ยืนยันไม่กระทบธุรกิจ ภาพรวมบริษัทฯ ที่มีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ซึ่งได้อนิสงค์จาก การผ่อนคลายมาตรการหลัง โควิด-19 ภาคการเดิทางท่องเที่ยวและการฟื้นตัวของการบริโภค ดันรายได้และกำไรเติบโต
นายฐาปน สิริวัฒนภักดีกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ เปิดเผยว่า ภาพรวมไทยเบฟฯ มีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง มีเสถียรภาพของกระแสเงินสด มีความพยายามลดหนี้ลงอย่างต่อเนื่อง แม้ต้องเผชิญกับวิกฤติการระบาดจากโควิด -19 โดยในปีนี้ประเทศไทยและเวียดนามซึ่งเป็นตลาดหลักของบริษัทฯ ได้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ลดข้อจำกัดด้านการเดินทางระหว่างประเทศและมาตรการทางสังคม ภาคการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ การบริโภคกลับมาฟื้นตัว ปัจจัยเหล่านี้ ช่วยให้รายได้และกำไรของกลุ่ม เติบโตมากขึ้น
ส่วนค่าเงินบาทที่อ่อนค่าขณะนี้ ยอมรับว่า เป็นปัจจัยที่ท้าทายต่อเศรษฐกิจไทย โดยในส่วนของไทยเบฟฯ แม้จะต้องนำเข้าวัตถุดิบบางชนิดอยู่บ้าง แต่วัตถุดิบส่วนใหญ่จะมช้วัตถุดิบในประเทศ เงินบาทจึงไม่ได้เป็นปัจจัยที่มีผลกระทบในเชิงลบต่อธุรกิจ ดูได้จาก 9 เดือนไทยเบฟฯ กวาดรายได้ 2 แสนล้านบาท
สำหรับรายได้จากการขายในช่วง 9 เดือนแรกของกลุ่มฯ เพิ่มขึ้น 8.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วเป็น 207,922 ล้านบาทซึ่งถือว่ารายได้จากการขายในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้สูงกว่าตัวเลขในช่วงเดียวกันของ 3 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าอุปสงค์ของตลาดกลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง และการบริหารตราสินค้าของบริษัทฯ ประสบความสำเร็จ โดยกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าใช้จ่ายตัดบัญชี (EBITDA) เพิ่มขึ้น 6.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วเป็น 39,110 ล้านบาท
ขณะที่กลุ่มธุรกิจอาหาร ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 ธุรกิจอาหารมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 38.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนเป็น 11,990 ล้านบาท เนื่องจากการฟื้นตัวของการบริโภคภายในร้านอาหาร และการขับเคลื่อนการดำเนินกลยุทธ์อย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความสามารถในการเจาะตลาดและเข้าถึงลูกค้า
“กลุ่มธุรกิจอาหารได้รับประโยชน์จากการที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ กลับมาดำเนินการได้อีกครั้งหลังจากการยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ช่วงโควิด-19 ทำให้ลูกค้าสามารถกลับมารับประทานในร้านอาหารได้ และถึงแม้จะมีการรับประทานในร้านมากขึ้น แต่ยอดขายของบริการส่งอาหารถึงบ้าน (home delivery) ก็ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง”นายฐาปน
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ไทยเบฟฯ กล่าวด้วยว่า ไทยเบฟมีการปรับโครงสร้างองค์กรและการบริหารงาน โดยวาง3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ สุรา เบียร์ และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ให้เป็นเครื่องยนต์สำคัญผลักดันการเติบโตในตลาดอาเซียน
พร้อมกันนี้ ไทยเบฟฯ ได้เตรียมงบลงทุน เพื่อขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย โดยการลงทุนครอบคลุมทั้งหมวดสุรา เบียร์ เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และอาหาร .-สำนักข่าวไทย