ปทุมธานี 23 ก.ย.- “ก้าวไกล” จัดประชุมใหญ่ทีมงาน 77 จังหวัด ติวเข้มนโยบายพร้อมเลือกตั้ง ประกาศยุทธศาสตร์ป้องแชมป์เขตเดิม รุกเพิ่มเขตใหม่ทุกภาค
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวในการประชุมร่วมระหว่างทีมงานจังหวัดพรรคก้าวไกลทั้ง 77 จังหวัด และเครือข่ายแรงงานกับเครือข่ายชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองของพรรค ว่า พรรคในขณะนี้มีความพร้อมทุกด้านในการเข้าสู่การเลือกตั้ง ขอให้ทีมงานทุกจังหวัดและเครือข่ายต่างๆ ร่วมกันทำงานเพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ใหญ่ของพรรค นั่นคือการป้องกันแชมป์เขตเดิมที่เคยได้รับเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ตั้งแต่ครั้งอนาคตใหม่ ในขณะเดียวกัน ก็ต้องทำงานหนักเพื่อเปิดพื้นที่ใหม่ๆ ที่พรรคมีศักยภาพ มีผู้สมัครที่โดดเด่น ซึ่งพรรคตั้งเป้าว่าจะต้องมี ส.ส. เขตเพิ่มขึ้นและปักธงให้ได้ในทุกภาคของประเทศ จากเดิมที่พรรคอนาคตใหม่มี ส.ส. เขตในอีสาน ภาคเหนือ กรุงเทพ ปริมณฑล ภาคตะวันออก แต่ยังขาด ส.ส. เขตจากภาคใต้
นายชัยธวัช ยังกล่าวว่า ตอนพรรคอนาคตใหม่เข้าสู่การเลือกตั้ง มีเวลาให้ผู้สมัคร ส.ส. เขตเดินหาเสียงในพื้นที่ไม่ถึง 60 วัน แต่ครั้งนี้ ผู้สมัครจำนวนมากเริ่มทำงานในพื้นที่ล่วงหน้านานกว่า 1 ปี บางคนทำงานต่อเนื่องมากว่า 3 ปี ตั้งแต่ลงสมัครในปี 2562 เมื่อบวกกับการทำหน้าที่ของผู้แทนราษฎรก้าวไกลในสภา ที่พิสูจน์ตนเองตลอดเกือบ 4 ปีที่ผ่านมา ว่าพรรคได้ยกระดับคุณภาพของสภาผู้แทนราษฎร สามารถผลักดันกฎหมายที่ก้าวหน้าได้ และทำหน้าที่ตรวจสอบงบประมาณและการใช้อำนาจของรัฐบาล โดยไม่เกรงใจใคร ทำให้พรรคมั่นใจว่าผู้สมัครของก้าวไกล จะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากกว่าในการเลือกตั้งปี 2562 อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลได้ส่งตัวแทนทีมกฎหมาย และกองอำนวยการเลือกตั้ง เข้าร่วมรับฟังการชี้แจงระเบียบการดำเนินงานของพรรคการเมืองจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งมีเนื้อหาหลักๆ คือการแจกแจงกรอบงบประมาณที่พรรคการเมืองสามารถใช้ในการเลือกตั้งที่จะมาถึงในปี 2566 ซึ่งกรอบวงเงินเป็นไปตามเดิม คือพรรคมีกรอบงบประมาณใช้ในการเลือกตั้ง 35 ล้านบาท ส่วนผู้สมัคร ส.ส. เขต มีกรอบงบประมาณเขตละ 1.5 ล้านบาท และคณะกรรมการการเลือกตั้งจะเริ่มนับช่วงเวลาการหาเสียงตั้งแต่ 24 กันยายนนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ ตัวแทนจากพรรคก้าวไกลยืนยันว่าไม่มีความกังวลในเรื่องงบประมาณและกรอบเวลา เนื่องจากในการเลือกตั้ง 2562 พรรคอนาคตใหม่ก็ใช้งบประมาณน้อยที่สุดในบรรดาพรรคการเมืองระดับชาติทุกพรรค ไม่มีปัญหาเรื่องการใช้เงินเกินวงเงินอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม พรรคก้าวไกลตั้งข้อสังเกตว่าการบังคับใช้กฎหมายในเรื่องการใช้งบประมาณในการหาเสียง มีความไม่เท่าเทียมกันระหว่างฝ่ายค้านกับรัฐบาล เนื่องจากพรรครัฐบาลมีของแจก มีการตั้งป้าย ในนามกระทรวงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างๆ ซึ่งนอกจากจะเป็นการใช้งบประมาณจากภาษีประชาชนในการหาเสียงล่วงหน้าแล้ว ยังไม่ถูกนับเป็นค่าใช้จ่ายในการหาเสียงของพรรคหรือผู้สมัครอีกด้วย .-สำนักข่าวไทย