ล่าโจรใส่ชุดไรเดอร์ทำทีทะเลาะชู้ฉกเงิน 3.4 ล้าน

ชลบุรี 21 ก.ย. – คนร้ายใส่ชุดไรเดอร์ ชิงเงินกว่า 3.4 ล้านบาท ทำทีเหมือนทะเลาะกันเรื่องชู้สาว ก่อนคว้ากระเป๋าเป้ใส่เงินสดที่เบิกมาจ่ายค่าแรงพนักงาน แล้วขี่จักรยานยนต์หลบหนีไป


เหตุเกิดภายในซอยราษฎร์อุทิศ ด้านหลังธนาคารไทยพานิชย์ เขตเทศบาลเมืองบ้านชลบุรี โดยก่อนเกิดเหตุนางสาวประภาพร อายุ 29 ปี นั่งรถตู้มากับนายกฤษชภัชร์ อายุ 24 ปี คนขับ เพื่อมาเบิกเงินจากธนาคารกรุงเทพ สาขาบ้านบึง จำนวนเงิน 3,500,000 บาท เพื่อเอาไปจ่ายค่าแรงให้กับพนักงานโดยจะมาเบิกทุกวันที่ 5 และวันที่ 20 ของเดือน จากนั้นเดินกลับมาที่รถ มีนายกฤษชวัชร์ถือกระเป๋าเป้ ใส่เงินจำนวน 3,460,000 บาท มาวางไว้ในรถตรงเกียร์รถระหว่างคนขับกับคนนั่ง ส่วนนางสาวประภาพร นำเงินธนบัตรฉบับละ 20 บาท และ 100 บาท รวมกัน 40,000 บาท ใส่ในกระเป๋าถือสีดำ

ต่อมามีชายรูปร่างใหญ่แต่งกายเป็นไรเดอร์ส่งอาหาร เปิดประตูพร้อมกับพูดว่ามึงชอบเมียชาวบ้านมากใช่ไหมก่อนจะชกต่อยกัน จากนั้นนายกฤษชภัชร์จะใช้เท้าถีบ ไรเดอร์อ้างว่ามีปืน ทำให้นายกฤษชภัชร์ วิ่งหนีจากรถเข้าไปในซอย ก่อนคนร้ายจะวิ่งตามหวังจะทำร้าย ส่วนนางสาวประภาพร ระหว่างเกิดเหตุร้องบอกว่าไม่มีแฟน หนูโสด ขณะที่เดียวกันนายกฤษชภัชร์ ก็ร้องบอกว่า ไม่ใช่ผม พี่จำผิดหรือเปล่า จากนั้นคนร้ายได้ย้อนกลับมาที่เกิดเหตุคว้าเอากระเป๋าเป้ที่มีเงินสด และยังตะโกนอีกว่ามึงรักมัน ชอบมันมากใช่ไหม ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ สีเทาไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไป


ตำรวจ สภ.บ้านบึงลง เก็บรอยนิ้วมือ และหลักฐานต่างๆ บริเวณรอบรถและในรถ ตามคำกล่าวอ้างของพนักงานทั้งสอง และไล่ดูกล้องวงจรปิดริมถนนใกล้จุดเกิดเหตุ ขณะที่ พ.ต.อ.ธนาวุฒิ จงจิระ รอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ลงพื้นที่เกิดเหตุด้วยพร้อมสั่งให้ชุดสืบสวน สภ.บ้านบึง เร่งหาเบาะแส และสอบสวนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด และจากการไล่ดูกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์มาจอดริมถนนมีท่าทีพิรุธ จอดดูเหยื่อที่บริเวณด้านหน้าของธนาคาร จำนวน 3 รอบ จากนั้นขี่รถไปด้านหลังธนาคาร หลังก่อเหตุได้ขับไปเส้นทางหลังเทศบาลและออกไปทางซอยเซิดน้อยไปทางเส้นตำบลมาบไผ่ หลบหายไป ซึ่งตรงกับรูปร่างที่ชาวบ้านพบเห็น และบอกเล่า

ขณะเดียวกันได้แยกสอบนายกฤษชภัชร์ และนางสาวประภาพร อย่างละเอียด โดยเฉพาะนางสาวประภาพร ไม่อนุญาตให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้า ด้านนายกฤษชภัชร์ ยืนยันว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องราวทั้งหมด ไม่มีส่วนรู้เห็นกับคนร้าย

เบื้องต้นตำรวจ มีข้อสงสัยในหลายประเด็น ที่พนักงานทั้งสองยังคงให้การอันเป็นพิรุธ จากนั้นพลตำรวจตรี อิทธิพร โพธิ์ทอง รองผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 2 ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บ้านบึง สืบสวนจังหวัด และสืบสวนภาค 2 และได้เชิญผู้จัดการบริษัทและพนักงานด้านการเงินมาสอบสวนเพิ่มเติม เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สงสัยในประเด็นบางส่วน และคาดว่าใช้เวลาไม่นานจะรู้ตัวคนร้าย และนำตัวมาดำเนินคดี พร้อมฝากถึงบริษัทร้านค้า ว่าหากมีการเบิกเงินครั้งละมากๆ ควรประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคอยอำนวยความสะดวกและป้องกันเหตุร้าย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก