กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – กรมปศุสัตว์นำร่องใช้ “เทคโนโลยีการย้ายฝากตัวอ่อน” ในฟาร์มโคเนื้อที่เข้าร่วม “โครงการเพิ่มศักยภาพการผลิตโคเนื้อด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ” เหมือน “การอุ้มบุญ” ในคน ฝากให้แม่โคในฟาร์ม อุ้มท้องตัวอ่อนสายพันธุ์แท้ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ เพิ่มโอกาสให้เกษตรกรได้ลูกโคสายพันธุ์ดี มีคุณภาพ โดยไม่ต้องนำเข้าพ่อแม่โคสายพันธุ์แท้ที่มีราคาแพง
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า ขณะนี้กรมปศุสัตว์นำร่อง “เทคโนโลยีการย้ายฝากตัวอ่อน” ในฟาร์มโคเนื้อหลายแห่งเพื่อพัฒนาและปรับปรุงพันธุ์สัตว์ของเกษตรกร โดยเป็นส่วนหนึ่งของ “โครงการเพิ่มศักยภาพการผลิตโคเนื้อด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ” ที่มุ่งสนับสนุนให้เกษตรกรมีโอกาสเข้าถึงโคเนื้อพันธุ์แท้ที่ให้เนื้อคุณภาพสูง อีกทั้งยังได้ดำเนินงานควบคู่กับ “โครงการหนึ่งหมู่บ้านหนึ่งฟาร์มเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตปศุสัตว์” ในการฟื้นฟูสุขภาพและการเจริญพันธุ์ของสัตว์ในฟาร์มอย่างเป็นระบบ
สำหรับ “เทคโนโลยีการย้ายฝากตัวอ่อน” มีหลักการเหมือน “การอุ้มบุญ” ในคน กรมปศุสัตว์ โดยสำนักเทคโนโลยีชีวภาพการผลิตปศุสัตว์ได้นำเข้าตัวอ่อนโคเนื้อสายพันธุ์แท้จากต่างประเทศ แล้วมาย้ายฝากให้แม่โคในฟาร์มของเกษตรกรอุ้มท้องซึ่งดำเนินการโดยไม่คิดมูลค่า เพื่อช่วยให้เกษตรกรได้ลูกโคเนื้อสายพันธุ์ดี มีคุณภาพตามที่ตลาดต้องการ โดยไม่ต้องนำเข้าพ่อแม่โคสายพันธุ์แท้ที่มีราคาแพง เป็นการประหยัดงบประมาณให้แก่ทางราชการได้เป็นอย่างดี
ขณะนี้ฟาร์มโคเนื้อหลายฟาร์มที่เข้าร่วมโครงการและมีแม่โคตัวรับในฟาร์มอุ้มท้องตัวอ่อนจาก “เทคโนโลยีการย้ายฝากตัวอ่อน” ให้กำเนิดลูกโคสายพันธุ์แท้แล้ว
อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ของปศุสัตว์จังหวัดจะเข้าไปช่วยให้คำแนะนำแก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพสัตว์ การป้องกันโรค ฉีดวัคซีน ถ่ายพยาธิ รวมถึงเร่งรัดการผสมเทียม เพื่อให้สัตว์ได้รับการผสมพันธุ์และมีลูกเกิดให้มากที่สุด ทั้งนี้ “เทคโนโลยีย้ายฝากตัวอ่อน” นับเป็นการพัฒนาไปอีกขั้นที่สำนักเทคโนโลยีชีวภาพการผลิตปศุสัตว์ดำเนินการในพื้นที่ที่รับผิดชอบของศูนย์วิจัยการผสมเทียมและเทคโนโลยีชีวภาพทั้ง 10 ศูนย์ศูนย์ละ 2 จังหวัด จังหวัดละ 2-4 หมู่บ้าน รวม 62 หมู่บ้าน มุ่งหวังให้ฟาร์มที่เข้าร่วมโครงการมีลูกเกิดจากการให้บริการผสมเทียมและย้ายฝากตัวอ่อน 1,000 ตัว เป็นเพศผู้ที่เลี้ยงเป็นโคขุน 500 ตัว จำหน่ายได้ตัวละ 30,000 บาทช่วยให้เกษตรกรมีรายได้มั่นคงขึ้น
นอกจากนี้สำนักงานปศุสัตว์ในพื้นที่จะเข้าไปให้ความรู้เกี่ยวกับอาหารสัตว์แก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาราคาอาหารสัตว์สูงขึ้น โดยการแนะนำสูตรอาหารที่ลดต้นทุน แต่คุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน ตลอดจนให้คำแนะนำในการปรับระบบการเลี้ยงให้ป้องกันโรคได้ดีขึ้น และส่งเสริมสนับสนุนให้ได้รับการรับรองมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) โคเนื้อจากกรมปศุสัตว์ ซึ่งจะสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคว่า ผลิตภัณฑ์จากฟาร์มมีคุณภาพและปลอดภัย ที่จะส่งผลให้เกษตรกรจำหน่ายเนื้อโคได้ในราคาสูงขึ้นตามการรับรองมาตรฐานการผลิต.-สำนักข่าวไทย