รมต.สธ.มาเลเซีย เยี่ยมโรงสกัดกัญชาองค์การเภสัชฯ พิจารณาใช้ทางการแพทย์

23 ส.ค. – รมต.สธ.มาเลเซีย เยี่ยมโรงสกัดกัญชาองค์การเภสัชฯ พิจารณาใช้ทางการแพทย์ “อนุทิน” ปลื้ม พร้อมถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ หนุนมิตรประเทศเดินหน้า


ที่องค์การเภสัชกรรม อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ได้นำนาย Khairy Jamaluddin ABU BAKAR รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสาธารณสุข ประเทศมาเลเซีย เยี่ยมชมโรงงานผลิตยาและสารสกัดกัญชาขององค์การเภสัชกรรม

นายอนุทิน กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสต้อนรับรัฐมนตรีจากมิตรประเทศ และถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการทำนโยบายกัญชาทางการแพทย์ ซึ่งทางมาเลเซียกำลังสนใจในเรื่องนี้ สำหรับนโยบายของไทย เชื่อเหลือเกินว่าการคลายล็อกกัญชา ช่วยสร้างเสริมสุขภาพ และความมั่งคั่งให้กับประชาชน นี่คือยุคสมัยของการแสวงหาโอกาส เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน


กับรัฐมนตรีมาเลเซีย เคยพบกับท่านแล้วที่การประชุมสมัชชาอนามัยโลกที่เจนีวา เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และเริ่มมีการพูดคุยเรื่องการแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับนโยบายกัญชากันแล้ว กระทั่งทางมาเลเซียติดต่อเข้ามา เพื่อที่จะขอข้อมูลเพิ่มเติม ทางประเทศไทย พร้อมให้ความร่วมมือ เพราะไทยเอง มีความรู้เรื่องกัญชา ที่สั่งสมมากว่า 300 ปี อันที่จริง หากย้อนกลับไป กัญชาคือส่วนหนึ่งของชีวิตคนไทย มีผสมอยู่ในอาหาร และยา ไทยไม่ใช่มือใหม่เรื่องนี้ กลับกัน เรามีองค์ความรู้มหาศาลที่พร้อมถ่ายทอดกับทุกท่านที่สนใจ

ทั้งนี้ มองว่านโยบายมีความคืบหน้าไปมาก ปัจจัยความสำเร็จ อยู่ที่การสนับสนุนของรัฐบาล องค์ความรู้ที่แข็งแกร่ง ไปจนถึงการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ที่ท่านรัฐมนตรีมาเลเซียได้มาศึกษาที่องค์การเภสัชกรรม คือ องค์ความรู้ของไทย ที่ยอดเยี่ยม ต่อยอดมาจากการค้นคว้าวิจัย ที่มีความเป็นมาอย่างยาวนาน

ต้องขอบคุณองค์การเภสัชกรรม ซึ่ง 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่นี่คือหน่วยงานสำคัญ ในการพาไทยต่อสู้กับโควิด-19 มาจนถึงวันนี้ ที่นี่กำลังเป็นจุดเริ่มต้นของการทำให้กัญชา กลายเป็นพืชเศรษฐกิจ นอกจากนั้น เรายังมีหน่วยงานสำคัญ คือ กรมการแพทย์แผนไทย และแพทย์ทางเลือก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และองค์การอาหารและยา ที่ช่วยกันกำกับดูแลการใช้กัญชา เพื่อพัฒนาสุขภาพประชาชน ปัจจุบัน ได้นำกัญชามาใช้อย่างหลากหลาย และสารสกัดจากกัญชา ก็อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ในระบบหลักประกันถ้วนหน้า เป็นทางเลือกด้านการรักษาพยาบาลของคนไทย


ชัดเจนแล้วว่า ประเทศไทยพร้อมแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับทางมาเลเซียในนโยบายกัญชาทางการแพทย์ ไปจนถึงความร่วมมือในอนาคต ในการพัฒนานโยบายเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน แน่นอนว่ากับทางมาเลเซีย การเดินหน้านโยบายกัญชาไม่ใช่งานง่าย แต่ทางไทย ก็พร้อมเป็นทั้งกำลังใจ และพร้อมให้การสนับสนุนอย่างมิตรประเทศ

ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า ยินดีอย่างยิ่งที่ได้มาชมการปลูกและการสกัดกัญชา เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วย ทางมาเลเซียจะนำเรื่องนี้ไปพิจารณา เพราะเป็นสัญญาปที่ให้ไว้ ในการมุ่งหาทางพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

สำหรับองค์การเภสัชกรรมนั้น ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์สารสกัดกัญชาทางการแพทย์ชนิดหยดใต้ลิ้น 4 สูตร นำมาใช้กับผู้ป่วยกลุ่มโรคที่กรมการแพทย์กำหนด ได้แก่ สูตร THC เด่น, สูตรที่มี THC และ CBD สัดส่วน 1:1, สูตรที่มี THC เข้มข้น 81 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร หรือ THC FORTE สำหรับใช้รักษาเสริมภาวะคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด ผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะท้าย และสูตร CBD เด่น สำหรับผู้ป่วยโรคลมชักในเด็ก ซึ่งมีการนำไปใช้จริงกับผู้ป่วยจากคลินิกกัญชานำร่อง 12 เขตสุขภาพ ก่อนขยายสู่คลินิกกัญชาทางการแพทย์ในสถานพยาบาลภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ นอกจากนี้ กรมการแพทย์และสถานพยาบาลต่างๆ ยังได้ทำการศึกษาและขยายขอบเขตการใช้ในกลุ่มโรคต่างๆ ให้คลอบคลุมยิ่งขึ้น เช่น โรคพาร์กินสัน และโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง เป็นต้น ล่าสุดสารสกัดกัญชาทางการแพทย์ทั้ง 4 สูตร บรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร พ.ศ.2564

องค์การเภสัชกรรมได้ขยายกำลังการผลิตวัตถุดิบช่อดอกกัญชาจากการปลูกในรูปแบบ Indoor พื้นที่ 100 ตารางเมตร ไปยังพื้นที่ปลูกขององค์การเภสัชกรรม อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี ในการปลูกรูปแบบโรงเรือน Green House และทำการศึกษาสภาวะการปลูกที่เหมาะสมในแต่ละโรงเรือนควบคู่ไปด้วย เพื่อให้ได้ผลผลิตกัญชาทางการแพทย์ที่มีปริมาณสารสำคัญตามกำหนด และเพื่อให้ได้วัตถุดิบที่มีมาตรฐานเมดิคัลเกรดแท้จริง รวมถึงพัฒนาพื้นที่ปลูกกัญชาขนาด 1,000 ตารางเมตร ในรูปแบบ Indoor ณ อาคารฝ่ายสมุนไพรและเภสัชเคมีภัณฑ์ องค์การเภสัชกรรม อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี อีกหนึ่งแห่ง อยู่ระหว่างการติดตั้งระบบปลูก คาดว่าเริ่มปลูกได้ประมาณต้นปี 2566 ปลูกกัญชาได้ประมาณ 5,000 ต้นต่อปี เป็นผลผลิตช่อดอกกัญชาจำนวน 1,000 กิโลกรัมต่อปี

นอกจากนี้ยังเตรียมรองรับวัตถุดิบจากกัญชง สำหรับนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ยา เวชสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยร่วมกับเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการ 12 แห่งทั่วประเทศ ในการปลูกกัญชงคุณภาพตามมาตรฐานที่องค์การเภสัชกรรมกำหนด ร่วมกับโครงการหลวงและสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) นำเมล็ดกัญชงมาสกัดเป็นน้ำมัน เพื่อเป็นส่วนประกอบในการผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนและผู้ประกอบการได้อีกทางหนึ่ง ปัจจุบันพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดแล้ว 2 รายการ ได้แก่ ชาใบกัญชงพร้อมดื่ม และผลิตภัณฑ์ SIBANNAC Hemp Seed Oil Bedtime Lip Care ผลิตจากน้ำมันเมล็ดกัญชง ในรูปแบบลิปบาล์ม ที่มีส่วนช่วยลบเลือนริ้วรอย และให้ความชุ่มชื้นแก่ริมฝีปาก. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ภรรยาหมอบุญมอบตัว

“ภรรยา-ลูก” หมอบุญ อ้างถูกปลอมลายเซ็น ไม่เคยรู้การกระทำใดๆ

ทนายความภรรยา-ลูก หมอบุญ เผยถูกปลอมลายเซ็นเอกสาร ไม่เคยรับรู้การกระทำใดๆ ของหมอบุญ โดยภรรยาได้หย่าร้างกับหมอบุญ ก่อนปี 66

น้ำผุดเชียงดาว

น้ำใต้ดินผุดท่วมอ่วม “บ้านเรือน-พื้นที่เกษตร” อ.เชียงดาว

มวลน้ำมหาศาลผุดขึ้นจากใต้ดิน เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เกษตร และบ้านเรือนประชาชน หลายหมู่บ้าน ใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำบางจุด ท่วมบ้านเกือบถึงหลังคา พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 400 ไร่

เลือกตั้ง อบจ.

“แสวง” ลงพื้นที่สังเกตการณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี

“เลขาฯ แสวง” ลงพื้นที่ตรวจรับ-มอบอุปกรณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี พร้อมสังเกตการณ์เลือกตั้งพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) วอนประชาชนออกมาใช้สิทธิ 8.00-17.00 น.