ทำเนียบ 18 ส.ค.- เลขาฯ สมช. เผย ศบค.เตรียมพิจารณาแผนกระจายยาโควิด-19 และแผนรับมือการประกาศเป็นโรคเฝ้าระวัง 1 ตุลาคมนี้
พลเอกสุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศปก.ศบค. เปิดเผยว่าการประชุม ศบค. ชุดใหญ่ ในวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) จะมีการพิจารณาข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุข ที่จะกำหนดกรอบแนวทางโรคโควิด-19 เป็นโรคที่จะต้องเฝ้าระวัง 1 ตุลาคมนี้ เพราะที่ผ่านมา การแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 เป็นอำนาจของ ศบค. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนเมื่อประกาศเป็นโรคเฝ้าระวังแล้ว จะยุบ ศบค.หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ซึ่งจะต้องประเมินว่าจำเป็นจะต้องใช้กฎหมายพิเศษหรือไม่
ส่วนข้อเสนอของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในการขยายเวลาการเปิดสถานบันเทิง จนถึงเวลาตี 4 นั้น พลเอกสุพจน์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับในส่วนของกระทรวงมหาดไทยจะไปพิจารณา ที่ผ่านมา ศบค. พิจารณา จนสุดทางแล้ว แต่ ศบค.จะให้ข้อกังวล ว่าหากเปิดแล้วจะมีผลกระทบกับกับประชาชนในการป้องกันโควิด-19 หรือไม่
เมื่อถามว่า ขณะนี้สถานการณ์โควิด-19คลี่คลายลงแล้ว ยังจำเป็นต้องใช้กฎหมายฉุกเฉินหรือไม่นั้น พลเอกสุพจน์ เห็นว่า ขณะนี้ยังมีความจำเป็นใช้ เพราะจะต้องกำกับควบคุมคนเดินทางเข้าออกประเทศ และห้ามในการกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่จะก่อเกิดให้เกิดโรคระบาด ขณะเดียวกัน แม้ดูเหมือนตัวเลขผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้น แต่มาตรการในการรองรับ ทั้งการรักษาพยาบาล การกระจายยา การดูแลรักษาตนเองของผู้ป่วย ที่ประชาชนดำเนินการอยู่ เป็นไปในทิศทางที่ดี
พลเอกสุพจน์ กล่าวว่า ในการพิจารณาในที่ประชุม ศบค.ในวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) จะเน้นไปที่แผนกระจายยา ที่ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขกระจายไปยังโรงพยาบาลเอกชน และคลินิกเวชกรรมแล้ว ต่อไปก็จะขยายไปยังร้านขายยาชั้นหนึ่งให้จำหน่ายยาได้ ภายใต้การกำกับดูแลของแพทย์ และให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เตรียมแผนนำไปสู่การประกาศเป็นโรคเฝ้าระวัง และรองรับการประกาศเป็นโรคประจำถิ่น ที่สำคัญในพื้นที่กรุงเทพมหานครเป็นจังหวัดใหญ่ที่จะต้องบูรณาการกับจังหวัดปริมณฑล
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังจะพิจารณาถึงการเปิดด่านชายแดนหลังจากที่มีการผ่อนคลายเปิดไปแล้วหนึ่งเดือนผ่านมา รวมถึงรับทราบรายงานสถานการณ์การท่องเที่ยวด้วย.-สำนักข่าวไทย